
วันที่ 16 ธันวาคม 2568 ที่หอประชุม 80 พรรษา องค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ (อบจ.เชียงใหม่) นายรัฐพล นราดิศร ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานแถลงข่าวโครงการพัฒนาและขับเคลื่อนระบบขนส่งมวลชนสาธารณะ รถพลังงานสะอาด EV Bus เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน และส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่
ในการแถลงข่าวมีนายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร หรือ “ส.ว.ก๊อง” นายก อบจ.เชียงใหม่ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร อบจ.เชียงใหม่ ผู้แทนเทศบาลนครเชียงใหม่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเครือข่ายภาคี (MOA) รวม 11 หน่วยงาน โดยมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 200 คน
นายรัฐพล กล่าวว่า โครงการ EV Bus เป็นการนำรถพลังงานสะอาดมาใช้แก้ไขปัญหาการจราจรและมลพิษฝุ่น PM2.5 ซึ่งส่งผลกระทบต่อเชียงใหม่ เมืองประวัติศาสตร์อายุกว่า 730 ปี ในอดีตเชียงใหม่เคยมีรถเมล์ให้บริการเมื่อกว่า 30–40 ปีก่อน ก่อนจะยกเลิกไป การที่ อบจ.เชียงใหม่นำระบบขนส่งสาธารณะพลังงานสะอาด 100% กลับมาอีกครั้ง ถือเป็นก้าวสำคัญในการพัฒนาเมืองอย่างยั่งยืน โดยตัวรถออกแบบเป็นรถขนาดกลางแบบชานต่ำ รองรับผู้พิการและผู้สูงอายุ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ด้านนายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร นายก อบจ.เชียงใหม่ เปิดเผยว่า เบื้องต้น อบจ.ได้รับสัมปทานเดินรถ 2 เส้นทาง ใช้รถ EV Bus จำนวน 20 คัน รองรับผู้โดยสารคันละประมาณ 15–20 คน ให้บริการทุก 10 นาทีต่อคัน คาดใช้งบลงทุนราว 200–300 ล้านบาท โดยอยู่ระหว่างพิจารณารูปแบบการลงทุนว่าจะซื้อหรือเช่า เพื่อให้เกิดความคุ้มค่าเชิงเศรษฐกิจมากที่สุด
แหล่งเงินทุนมาจากการกู้ยืมสถาบันการเงินขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (กสอ.) ซึ่ง อบจ.เชียงใหม่เป็นสมาชิกและมีเงินฝากอยู่ประมาณ 500 ล้านบาท โดยสามารถกู้ได้สูงสุด 3 เท่าของเงินฝาก หรือประมาณ 1,500 ล้านบาท ยืนยันอัตราค่าโดยสารไม่เกิน 20 บาทตลอดสาย และคาดว่าจะเริ่มดำเนินการได้ในปี 2569 เพื่อรองรับเป้าหมายการผลักดันเชียงใหม่สู่การเป็นเมืองมรดกโลก
ขณะที่นายพจนา ศรีศิลป์นันท์ รองนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ กล่าวเสริมว่า เทศบาลนครเชียงใหม่พร้อมสนับสนุนโครงการดังกล่าวอย่างเต็มที่ โดยมีแผนจัดทำจุดจอดรถ EV Bus ริมถนน สถานีรับ-ส่งผู้โดยสาร และจุดจอดในสถานีขนส่งเชียงใหม่แห่งที่ 2 รวมถึงการปรับปรุงภูมิทัศน์ในเขตเทศบาลตลอดเส้นทางที่รถบัสวิ่งผ่าน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เส้นทาง EV Bus ที่ อบจ.เชียงใหม่เตรียมดำเนินการในระยะแรก จำนวน 2 เส้นทาง ได้แก่
เส้นทางที่ 1 สาย 18 เริ่มจากสถานีขนส่งอาเขต ผ่านสถานีรถไฟ ย่านท่าแพ โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ถึงอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย ระยะทางรวมกว่า 35 กิโลเมตร
เส้นทางที่ 2 สาย 20 เริ่มจากสถานีขนส่งอาเขต ผ่านย่านไนท์บาซาร์เชียงใหม่ สถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 1 (ช้างเผือก) ศูนย์ประชุมและแสดงสินค้านานาชาติเชียงใหม่ สวนเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา ถึงโรงพยาบาลนครพิงค์ ระยะทางรวมกว่า 40 กิโลเมตร
นอกจากนี้ ยังมีแผนดำเนินการ เส้นทางที่ 3 เชื่อมจากท่าอากาศยานนานาชาติเชียงใหม่ ผ่านถนนมหิดล ถนนเจริญประเทศ ถนนข้างคลาน โรงเรียนมงฟอร์ตวิทยาลัย สถานีขนส่งอาเขต ถนนซุปเปอร์ไฮเวย์ สถานีขนส่งผู้โดยสารแห่งที่ 1 (ช้างเผือก) เมญ่า ไลฟ์สไตล์ ช็อปปิ้ง เซ็นเตอร์ ตลาดต้นพะยอม โรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ ถึงโรงเรียนวัฒโนทัยพายัพ รวมระยะทางกว่า 20 กิโลเมตร คาดว่าจะเริ่มดำเนินการในปี 2570 ต่อไป

