
สถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาหลังการปะทะยืดเยื้อเข้าสู่วันที่ 12 (8-19 ธ.ค.) ยังคงมีความตึงเครียดอย่างต่อเนื่อง โดยการสู้รบอย่างดุเดือดในหลายพื้นที่ส่งผลให้มีกำลังพลบาดเจ็บและเสียชีวิตในเขตสู้รบ ในส่วนของกองทัพบกไทยได้ดำเนินการเคลื่อนย้ายร่างทหารที่เสียชีวิตกลับมาประกอบพิธีทางศาสนาอย่างสมเกียรติแล้ว โดยยังคงเหลือเพียง 2 ร่างที่อยู่ระหว่างขั้นตอนการเคลื่อนย้ายออกจากพื้นที่แนวรบเนื่องจากข้อจำกัดทางยุทธวิธี
.
ขณะที่แหล่งข่าวจากกองทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า ในพื้นที่ชายแดนภาคอีสานครอบคลุม 4 จังหวัด พบร่างทหารกัมพูชาเสียชีวิตตกค้างอยู่ในเขตประเทศไทยเป็นจำนวนมาก จนเริ่มส่งกลิ่นคละคลุ้งไปทั่วบริเวณชายแดน แต่ทางฝ่ายกัมพูชายังคงปฏิเสธที่จะรับร่างผู้เสียชีวิตกลับ โดยระบุว่า “ไม่ใช่ทหารของฝ่ายตน” ซึ่งพฤติการณ์นี้ซ้ำรอยเดิมกับการปะทะเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ที่ทางการกัมพูชาเคยปฏิเสธความรับผิดชอบต่อกำลังพลของตนเองในลักษณะเดียวกันมาแล้ว ทำให้ทหารไทยต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้าด้วยการโรยปูนขาวเพื่อฆ่าเชื้อและระงับกลิ่นตามหลักสุขอนามัย
.
ในส่วนของพื้นที่ภาคตะวันออก กองบัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด (กปช.จต.) รายงานผลการปฏิบัติหลังการปะทะที่บ้านสามหลังและบ้านหนองรี จ.ตราด ว่าหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินได้เข้าเก็บกู้ชิ้นส่วนร่างทหารกัมพูชาเพื่อเตรียมส่งคืนตามหลักมนุษยธรรม อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ฝ่ายกัมพูชายังไม่มีความพร้อมในการรับร่างกลับไปดำเนินการ จึงได้ประสานขอฝากชิ้นส่วนร่างผู้เสียชีวิตไว้ที่โรงพยาบาลตราดเป็นการชั่วคราว เพื่อรอความชัดเจนและการดำเนินการในขั้นต่อไป
