วันที่ 21 ธันวาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พรรคโอกาสใหม่ เปิดตัวอย่างเป็นทางการบนสมรภูมิการเมืองไทย พร้อมประกาศจุดยืนชัดเจนว่า ประเทศไทยไม่ขาดปัญหา แต่ขาดการบริหารจัดการที่มองเห็นทางออก
การเปิดตัวพรรคโอกาส นำโดย นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อดีตรัฐ มนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์, อดีตปลัดกระทรวงทรัพยากร
ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ทั้งยังเคยรับตำแหน่งอธิบดีกรมควบคุมมลพิษ อธิบดีกรมทรัพยากรนํ้า และอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ผู้มีประสบการณ์ตรงในการบริหาร ประเทศ เชิงระบบ พร้อมทีมผู้สมัครกรุงเทพ มหานคร และตัวแทนจากทั่วทุกภูมิภาคทั่วประเทศ ภายได้แนวคิดหลัก วิกฤติเปลี่ยนไทย โอกาสใหม่เปลี่ยนอนาคต”
พรรค ยังได้ชี้ชัดว่า การเมืองต้องไม่หยุดอยู่แค่คำมั่นสัญญาแต่ต้องเป็นเครื่องมือในการแก้ปัญหาจริงของประชาชนด้วย
การบริหาร จัดการอย่างเชี่ยวชาญ โดยผู้ มีประสบการณ์การทํางานจริงในระบบราชการระดับประเทศ
นายจตุพร กล่าวว่า วิกฤติที่ประเทศเผชิญอยู่ในวันนี้ ไม่
ว่าเป็นภัยพิบัติ ปัญหาทางเศรษฐกิจ หรือคุณภาพชีวิต
ซึ่งไม่ใช่เหตุการณ์เฉพาะหน้าแต่เป็นผลสะสมจากโครงสร้างที่ขาดการจัดการอย่างเป็นระบบ พรรคจึงก่อตั้งขึ้นบนความเชื่อว่า ถ้ามองเห็นปัญหาอย่างตรงไปตรงมา เราจะมองเห็นโอกาสในการแก้ไข และโอกาสนั้นต้องไม่จำกัดอยู่แค่คนบางกลุ่ม แต่ต้องเป็นโอกาสสำหรับคนไทยทุกคน
นโยบายของพรรคไม่ได้ถูกเขียนขึ้น เพื่อความนิยมระยะสั้น แต่เกิดจาก ประสบการณ์การทํางานจริงในระบบราชการระดับประเทศ เราทำในสิ่งที่เราเห็น เขาพูดในสิ่งที่เราเคยรับผิดชอบ และเรานำเสนอในสิ่งที่เรารู้ว่า ทำได้จริง
ดังนั้นนโยบายทุกด้านของพรรค จึงถูกออกแบบบนฐานข้อมูล ประสบ การณ์ และการบริหารจัดการเชิงระบบไม่ใช้การ นํา
เสนอเพื่อเอาใจ แต่เป็นแนวทางแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน สำหรับปัญหาเศรษฐกิจ และหนี้ครัวเรือนเป็นอีกเรื่องที่สำคัญควรต้องเร่งผลักดันการแก้ปัญหาดังกล่าวโดยเร็ว ซึ่งหนี้ครัวเรือน ไม่ใช่เรื่องตัวเลข อย่างเดียว แต่คือปัญหาคุณภาพชีวิตของประชาชน ซึ่งแนวทางของพรรค อาทิแก้หนี้อย่างมีระบบไม่ผลักภาระให้ประชาชน สร้างรายได้ที่มั่นคง ควบคู่การพัฒนาทักษะอาชีพ เพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน
“ประเทศไม่ใช่สนามฝึกมือ แต่ต้องการคนที่มีประสบการณ์
และพร้อมรับผิดชอบจริง” นายจตุพร กล่าว
ดร.อนุสรี กับสุวรรณ หรืออาย รองหัวหน้าพรรคโอกาสใหม่ ระบุว่า ปัญหาคุณภาพชีวิตของคนไทย โดยเฉพาะกรุงเทพ ไม่ได้ ขาดงบประมาณ แต่ขาดการวาง แผนทั้งระบบ พรรคจึงเสนอ ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน ตั้งแต่เกิดจนถึงบั้นปลาย ผ่านระบบสาธารณสุขที่ป้องกันโรคเรื้อรัง เพิ่มประสิทธิภาพการรักษา ลดการรอเตียง รอคิวด้วยการบริหารทรัพยากรทางการแพทย์อย่างดี ประสิทธิภาพ เพื่อให้ชีวิตของคนไทย ทุกคนมีค่าเท่ากันในทางปฏิบัติ ไม่ใช่แค่ในนโยบายเท่านั้น
ดร. อาย กล่าวต่อว่า การแก้ปัญหาเศรษฐกิจไม่ควรเริ่มจากการแจกเงิน แต่ต้องเริ่มจากการทําให้ประชาชน เข็งแรงพอที่จะแข่งขันได้ ทั้งแรงงานนอกระบบ อาชีพอิสระ และแรงงานแพลตฟอร์ม ผ่านการคุ้มครองตามกฎหมาย การพัฒนาทักษะที่เรียนรู้ได้ทุกวัย และการยกเครื่องระบบราชการให้คล่องตัว โปร่งใส พร้อมปราบปรามทุนเทา สแกมเมอร์ และผู้ทำลายสิ่งแวดล้อมอย่างเด็ดขาดเพื่อให้ประเทศหลุดจากวงจรแก้ปัญหาเฉพาะหน้า และเดินสู่การบริหารประเทศ ที่ทําได้จริง
