[ประจวบคีรีขันธ์] – จากกรณีพบศพ MR. MARKS SOREN (นายมาร์ค โซเรน) อายุ 65 ปี สัญชาติเยอรมัน เสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำภายในบ้านพักเลขที่ 392/1 หมู่ 10 ตำบลห้วยทราย เมื่อวันที่ 19 ธันวาคม 2568 ที่ผ่านมา ล่าสุดความจริงถูกเปิดเผยหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจพบว่าเป็นเหตุฆาตกรรมอำพราง โดยมีภรรยาผู้ตายเป็นผู้บงการร่วมกับลูกจ้างคนสนิท

เปิดแผนอำพรางและคำสารภาพสลด จากการสืบสวนเชิงลึกพบว่า เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นตั้งแต่มืดค่ำของวันที่ 23 พฤศจิกายน 2568 โดย น.ส.นิตทยา อายุ 45 ปี ภรรยาของผู้ตาย ได้ให้การสารภาพว่าตนร่วมกับ นายทองใบ อายุ 43 ปี ซึ่งเป็นลูกจ้าง ใช้เหล็กแป๊บกระหน่ำตีเข้าที่ศีรษะและแขนของสามีจนเสียชีวิตภายในบ้านพัก จากนั้นได้ทิ้งศพไว้ในบ้านนานเกือบหนึ่งเดือน จนกระทั่งวันที่ 19 ธันวาคม จึงทำทีเข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.คลองวาฬ ว่าได้กลิ่นเหม็นภายในบ้านเพื่อให้เจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ และพยายามให้ข้อมูลเบี่ยงเบนประเด็นว่าสามีน่าจะเสียชีวิตด้วยโรคประจำตัว
อย่างไรก็ตาม ผลการผ่าชันสูตรจากสถาบันนิติเวช รพ.ตำรวจ เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม ชี้ชัดว่าผู้ตายเสียชีวิตจากการถูกของแข็งไม่มีคมตีจนกะโหลกและแขนแตกหลายครั้ง ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่ปักใจเชื่อคำให้การของภรรยา และเดินหน้าสืบสวนจนพบมูลเหตุจูงใจว่า น.ส.นิตทยา อ้างว่าเกิดจากความคับแค้นใจที่ถูกสามีทำร้ายร่างกายบ่อยครั้ง จึงตัดสินใจร่วมกับลูกจ้างลงมือก่อเหตุในที่สุด ส่วน น.ส.เนาวรัตน์ อายุ 50 ปี (ภรรยาของนายทองใบ) คาดว่ามีส่วนรู้เห็นกับการลงมือครั้งนี้
ผลงานการกวาดล้างของชุดสืบสวนภูธรภาค 7 ภายใต้การอำนวยการอย่างใกล้ชิดของ พล.ต.ท.พิสิฐ ตันประเสริฐ ผบช.ภ.7, พล.ต.ต.ชมชวิณ ปุระธนานนท์ รอง ผบช.ภ.7, พล.ต.ต.ประสพชัย มัตสยะวนิชกูล รอง ผบช.ภ.7, พล.ต.ต.กานต์ ธรรมเกษม ผบก.สส.ภ.7 และ พล.ต.ต.อาทร ชิ้นทอง ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ร่วมกับ พ.ต.อ.ภาคภูมิ โห้ใย รอง ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์, พ.ต.อ.พงษ์ศิริ เก่งนอก รอง ผบก.สส.ภ.7 และ ว่าที่ พ.ต.อ.ปัญจพัฒน์ อรรถรักษ์โภคิน ผกก.สภ.คลองวาฬ
เจ้าหน้าที่ได้สนธิกำลังชุดสืบสวน กก.สส.ภ.7 และ สภ.คลองวาฬ จนสามารถรวบรวมพยานหลักฐานและเข้าจับกุมผู้ต้องหาทั้ง 3 รายได้เมื่อวันที่ 22 ธันวาคม 2568 โดยตั้งข้อหาหนักแก่ น.ส.นิตทยา และ นายทองใบ ในความผิดฐาน “ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน” ส่วน น.ส.เนาวรัตน์ ถูกดำเนินคดีในข้อหา “ร่วมกันฆ่าผู้อื่น” ก่อนส่งตัวพนักงานสอบสวน สภ.คลองวาฬ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างถึงที่สุดต่อไป

