วันที่ 27 ธันวาคม 68 ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศในการรับสมัครเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรในจังหวัดนครปฐมวันนี้พบว่ามีบรรยากาศคึกคักโดยทั้งสองบ้านใหญ่คือบ้านสะสมทรัพย์และบ้านแก้วพิจิตรส่งผู้สมัครลงเข้าชิงชัยในนามพรรคภูมิใจไทยและกล้าทำโดยมีกองเชียร์ส่งกำลังใจแน่นสนามรับสมัคร
โดย คณะกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดนครปฐม (กกต.) ได้ใช้สถานที่ ภายในหอประชุมสิริวรปัญญา มหาวิทยาลัยราชภัฎนครปฐม เปิดรับผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทน 6 เขต โดยกำหนดตั้งแต่วันที่ 27 ถึง 31 ธันวาคม 2568 ตั้งแต่เวลา 08.00-16.30 น. โดยวัยนี้เป็นการเปิดให้มีการรับสมัครเป็นวันแรกซึ่งเป็นไปตามคาดเนื่องจากจังหวัดนครปฐมเป็นพื้นที่ของบ้านใหญ่สะสมทรัพย์ซึ่งในครั้งนี้ได้ส่งผู้สมัครทั้งหมด6 เขต ประกอบด้วยนายอนุชา สะสมทรัพย์ ดร.พาณุวัฒน์ สะสมทรัพย์ นายศุภโชค ศรีสุขจร และครั้งนี้ได้ห่วงนายพะเยาว์ เนี๊ยะแก้ว อดีตนายก อบจ.นครปฐม หลายสมัย มาลงชิงเก้าอี้ในครั้งนี้ ในนามพรรคภูมิใจไทย ขณะที่บ้านใหญ่แก้วพิจิตร ได้ พันโท ด๊อกเตอร์ สินธพ แก้วพิจิตร (เสธ.แก้ว) ลงสมัครเพื่อป้องกันแชมป์ในพื้นที่ เขต 2 ซึ่งในครั้งนี้ได้ลงสมัครจริงใช้ในนามพรรคกล้าธรรม รวมถึงผู้สมัครที่หน้าตาคุ้นเคยเช่น นางธนัญญา บุญมี ได้ลงสมัครในนามพรรคเพื่อไทยเพื่อ ซึ่งในครั้งนี้พรรค ได้ส่งผู้สมัครลงครบทั้งหกเขต โดยมี นางอมรัตน์ โชคปมิตต์กุล หรือเจี๊ยบ ก้างไกลมาให้กำลังใจ ผู้สมัคร
โดยบรรยากาศทั้งสองฝั่งที่เห็นชัดเจนคือฝั่งตระกูลบ้านใหญ่สะสมทรัพย์ ซึ่งได้มีนายจิรวัฒน์ สะสมทรัพย์ นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครปฐม ได้เข้ามาให้กำลังใจน้องชายและหลานชาย ในการลงชิงชัยเก้าอี้ในสนามเด็กตั้งใหญ่คันนี้ รวมถึงกองเชียร์ที่เป็นผู้นำชุมชนและชาวบ้านได้ผลกองเชียร์มากันอย่างคึกคักตั้งแต่ช่วงเช้าก่อนที่จะมีการเปิด ให้เข้าสมัครตามลำดับ
เช่นเดียวกับ เสธ.แก้ว ซึ่งได้มีนายสุนทร แก้วพิจิตร ตำนานนักการเมืองนครปฐม รุ่นใหญ่ ได้เข้ามาดู บุตรชายคนเล็กที่ได้เข้ามารับสมัครในการลงป้องกันเก้าอี้ ส.ส.ในพื้นที่เขต 2 และ มีกองเชียร์ทั้งเป็นข้าราชการท้องถิ่นชาวบ้านและจากหลากหลายอาชีพก็ได้มาส่งเสริมเชียร์ในการลงสมัครนำพรรคกล้าทำ ซึ่งบรรยากาศไม่แพ้กัน
รายงานว่าการลงรับสมัครใช้เก้าอี้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดนครปฐมจะเห็นว่าเป็นการรวมกันกลับสร้างอาณาจักรของตระกูลสะสมทรัพย์ครั้งหนึ่งในนามพรรคภูมิใจไทย เช่นเดียวกับพิจิตรที่ยังยังคงรักษาพื้นที่ของตัวเองไว้ได้อย่างอยู่นาน ขณะที่ตัวสอดแทรกจากพรรคประชาชน พรรคเพื่อไทย อาจจะดูยังไม่เด่นชัดเท่ากับสองตระกูลบ้านใหญ่ในจังหวัดนครปฐมแต่คาดว่าการเลือกตั้งครั้งนี้เป็นไปตามค่าที่เสี่ยงคาดการณ์ไว้ว่าจะเป็นการคืนฟอร์มของบ้านใหญ่ในพื้นที่นครปฐมอย่างแน่นอน แต่ผลการเลือกตั้งจะเป็นอย่างไรนั้นจะต้องจับตาดูอีกครั้งหลังจากการปิดหีบบาทลงคะแนน อีกไม่กี่วันที่จะมาถึง
ภาพ/ข่าว กิตติพงษ์ จันทร์ละมูล ผู้สื่อข่าว จ.นครปฐม
