วันที่ 30 ธันวาคม 2568 บรรยากาศการเดินทางกลับภูมิลำเนาช่วงส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2569 ในพื้นที่จังหวัดสระบุรีเริ่มคึกคัก ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าของวันนี้ (30 ธ.ค.) ณ เทศบาลเมืองสระบุรี ได้เกิดความเคลื่อนไหวครั้งสำคัญ เมื่อ 4 หน่วยงานหลักด้านความมั่นคงและการปกครองของจังหวัดสระบุรี ได้ร่วมกันจัดพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) แบบเร่งด่วนรับสถานการณ์ เพื่อประกาศเจตนารมณ์ในการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่
พิธีลงนามในวันนี้ นำโดยเจ้าบ้าน ดร.ภาณุพงศ์ ทิพยเศวต นายกเทศมนตรีเมืองสระบุรี ให้การต้อนรับหัวหน้าส่วนราชการระดับสูงที่เดินทางมาร่วมผนึกกำลัง ประกอบด้วย พล.ต.ภัทราวุธ ทิพโกมุท ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 18 (มทบ.18), พ.ต.อ.ศักดิ์ชัย ไกรวีระเดชาชัย ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองสระบุรี และ รองเสนาธิการศูนย์การทหารม้า (ผู้แทนผู้บัญชาการศูนย์การทหารม้า)
สาระสำคัญของ MOU ฉบับนี้ คือการบูรณาการสรรพกำลังของทั้ง 4 ฝ่าย แบบไร้รอยต่อ โดยเริ่มดีเดย์ปฏิบัติการทันทีตั้งแต่วันนี้ (30 ธันวาคม 2568) ยาวไปจนถึงวันที่ 5 มกราคม 2569 ครอบคลุมช่วง “7 วันอันตราย” อย่างสมบูรณ์ โดยมีเป้าหมายหลักคือการลดสถิติการเกิดอุบัติเหตุ ผู้บาดเจ็บ และผู้เสียชีวิตในเขตเทศบาลเมืองสระบุรีให้เหลือน้อยที่สุด หรือเป็นศูนย์
เจาะลึกภารกิจ 4 ทัพ แบ่งงานชัดเจนเพื่อประชาชน
ภายใต้ข้อตกลงดังกล่าว มีการแบ่งมอบหน้าที่เพื่อความคล่องตัวในการปฏิบัติงาน ดังนี้
- ทัพหน้าด้านบริการ (เทศบาลเมืองสระบุรี):
ดร.ภาณุพงศ์ ทิพยเศวต สั่งการเตรียมความพร้อมขั้นสูงสุด โดยเทศบาลฯ รับหน้าที่เป็น “กองอำนวยการหลัก” จัดกำลังเจ้าหน้าที่อยู่เวรประจำจุดบริการประชาชนตลอด 24 ชั่วโมง จัดเตรียมสถานที่พักผ่อน (Rest Area) น้ำดื่ม เครื่องดื่มชูกำลังให้บริการผู้ขับขี่ที่อ่อนล้า พร้อมทั้งระดมกำลังสมาชิก อปพร. และทีมกู้ชีพกู้ภัย เตรียมพร้อมอุปกรณ์ช่วยชีวิต เพื่อเข้าถึงที่เกิดเหตุและปฐมพยาบาลเบื้องต้นทันทีหากเกิดเหตุไม่คาดฝัน - ทัพหลักพิทักษ์กฎหมาย (สภ.เมืองสระบุรี):
พ.ต.อ.ศักดิ์ชัย ไกรวีระเดชาชัย นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้มงวดกวดขันวินัยจราจรในเส้นทางสายหลักและสายรอง เน้นมาตรการป้องปรามผู้ขับขี่ที่มีพฤติกรรมเสี่ยง เมาแล้วขับ หรือขับรถเร็วเกินกำหนด เพื่อรักษาความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของพี่น้องประชาชน - ทัพหลวงดูแลความสงบ (มทบ.18 และ ศูนย์การทหารม้า) ได้จัดกำลังพลทหารเข้าร่วมสนับสนุนการปฏิบัติงาน ตามจุดตรวจและจุดบริการต่างๆ เพื่อดูแลความสงบเรียบร้อย อำนวยความสะดวกด้านการจราจร และสร้างความอุ่นใจให้กับนักท่องเที่ยวและประชาชนที่สัญจรผ่านพื้นที่เมืองสระบุรี
ดร.ภาณุพงศ์ ทิพยเศวต นายกเทศมนตรีเมืองสระบุรี เปิดเผยหลังพิธีลงนามว่า “การเซ็น MOU ในวันนี้ ไม่ใช่เพียงแค่พิธีการทางเอกสาร แต่คือคำมั่นสัญญาของพวกเราทั้ง 4 หน่วยงาน ที่จะทำหน้าที่เป็นผนังทองแดงกำแพงเหล็ก ดูแลพี่น้องประชาชนในช่วงเวลาแห่งความสุขนี้ การบูรณาการร่วมกับทหารและตำรวจ จะช่วยปิดช่องว่างในการทำงาน ทำให้การช่วยเหลือและดูแลความปลอดภัยมีประสิทธิภาพสูงสุด ทั่วถึงทุกตารางนิ้วในเขตเทศบาลฯ”
ทั้งนี้ โครงการดังกล่าวถือเป็นโมเดลต้นแบบของการทำงานเชิงรุกในระดับท้องถิ่น ที่ดึงเอาศักยภาพของทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง มาหลอมรวมกันเพื่อประโยชน์สุขของประชาชนอย่างแท้จริง โดยประชาชนที่เดินทางผ่านหรือพักอาศัยในเขตเมืองสระบุรี หากต้องการความช่วยเหลือฉุกเฉิน สามารถติดต่อจุดบริการประชาชนของเทศบาลได้ตลอด 24 ชั่วโมง ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
ดร.ภาณุพงศ์ ทิพยเศวต นายกเทศมนตรีเมืองสระบุรี กล่าวด้วยความมั่นใจว่า “วันนี้ถือเป็นนิมิตหมายอันดีครับที่เทศบาลเมืองสระบุรี พร้อมด้วย 4 หน่วยงาน ทั้งท่านผู้กำกับฯ ท่าน ผบ.มทบ.18 และท่าน ผบ.ศูนย์การทหารม้า ได้มารวมพลังกัน ณ จุดเช็คพอยต์สำคัญบริเวณ แยกต่างระดับมิตรภาพ หน้าค่ายอดิศร แห่งนี้
ด้าน พ.ต.อ.ศักดิ์ชัย ไกรวีระเดชาชัย ผกก.สภ.เมืองสระบุรี ได้กล่าวขอบคุณทุกหน่วยงาน และเน้นย้ำมาตรการความปลอดภัย “จุดบริการตรงแยกมิตรภาพนี้สำคัญมากครับ เพราะเป็นประตูสู่ภาคอีสาน ผมขอฝากความห่วงใยไปถึงพี่น้องประชาชน ‘ขับขี่ด้วยความระมัดระวัง ไม่ประมาท’ คือคาถาสำคัญครับ ง่วงไม่ขับ ดื่มไม่ขับ และควรศึกษาเส้นทางก่อนออกเดินทางเสมอ”
เมื่อถามถึงมาตรการช่วงเฉลิมฉลอง พ.ต.อ.ศักดิ์ชัย ตอบอย่างชัดเจนว่า “งานเลี้ยงเป็นเรื่องปกติของเทศกาล แต่ผมขอรณรงค์ให้ท่องไว้เลยว่า ‘ดื่มไม่ขับ’ ถ้าดื่ม ให้ใช้รถสาธารณะ หรือให้ญาติที่ไม่ได้ดื่มขับแทน เพราะอุบัติเหตุแม้ตัวท่านจะไม่เจ็บ แต่ความประมาทของท่านอาจไปสร้างความสูญเสียให้เพื่อนร่วมทางคนอื่นได้ครับ”
ปานวาด สุขไพบูลย์ / สระบุรี
