วันที่ 18 ก.ย.64 ร.ต.ท.หญิง ณัฎฐณิชา พัณณ์ราษฏร์สกุล พนักงานสอบสวน สภ.เบตง ได้รับแจ้งว่า ที่บ้านเลขที่ 41 ซอยดรุณี ถ.สุขยางค์ ต.เบตง อ.เบตง จ.ยะลา มีคนเสียชีวิต จึงรุดไปที่เกิดเหตุพร้อมด้วย พ.ต.อ.เอกชัย พราหมณกุล ผกก. พ.ต.ท.พงษ์ศักดิ์ ขุนบรรเทิง รอง ผกก.สส เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน แพทย์ โรงพยาบาลเบตง กู้ชีพกู้ภัยเบตงและกู้ชีพมุสลิมเบตง
ที่บ้านที่เกิดเหตุเป็นบ้านปูนชั้นเดียวสีชมพู ปลูกติดกันหลายหลัง เมื่อเจ้าหน้าที่เดินเข้าไปภายในบ้านก็ได้กลิ่นเหม็นไปทั่ว ภายในห้องนอนพบศพนายชิน ดง ห่อง อายุ 44 ปี นอนขึ้นอืดอยู่บนเบาะที่นอนภายในห้องนอน ส่งกลิ่นเหม็นตลบอบอวน แมลงวันบินว่อนไปทั่วห้อง โดยมีผ้าห่มนวมสีเทาห่มร่างอยู่ เจ้าหน้าที่กู้ภัยต้องนำธูปมาจุดเพื่อดับกลิ่นเหม็นและไล่แมลงวัน พร้อมทั้งนำยาฆ่าเชื้อมาฉีดพ่น ก่อนที่จะมีการเคลื่อนย้ายศพ คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 48 ชม. เนื่องจากตามลำตัวบวมขึ้นอืดแล้ว และที่ผิวหนังมีสีดำคล้ำ ไม่พบบาดแผล ส่วนที่บริเวณห้องครัวหลังบ้าน เจ้าหน้าที่พบศพ น.ส.กนกวรรณ แซ่ไอ๋ อายุ 43 ปี สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีน้ำตาล กางเกงขาสั้นสีแดง ใช้ผ้าขาวม้าแขวนคอกับเหล็กคานหลังคาห้องครัว ที่ข้อมือข้างซ้ายมีผ้าสีแดงพันไว้ เมื่อเปิดออกดูพบเป็นรอยใช้ของมีคมกรีด เจ้าหน้าที่จึงนำร่างทั้งสองส่งให้แพทย์โรงพยาบาลเบตงชันสูตรอย่างละเอียดอีกครั้งและจะทำการติดต่อญาติให้มารับศพไปประกอบพิธีกรรมทางศาสนา
จากการสอบถามเพื่อนบ้านละแวกใกล้เคียงทราบว่า บ้านหลังดังกล่าวพักอาศัยอยู่ 3 คน พ่อ แม่ ลูกชาย ซึ่งเรียนอยู่ชั้น ป.2 ช่วงสายวันนี้เด็กได้วิ่งมาบอกให้เข้าไปในบ้านดูแม่ของตน เมื่อเดินมาถึงบริเวณหน้าบ้านก็ได้กลิ่นเหม็น พอเข้าไปก็พบศพทั้ง 2 จึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจมาตรวจสอบ ในขณะที่เพื่อนบ้านอีกรายที่อยู่ตรงข้ามบ้านเล่าให้ฟังว่า เมื่อสองวันที่แล้วช่วงเช้า ได้ยินเสียงผู้หญิงกรี๊ดเสียงดัง 1 ครั้งในบ้านหลังนี้พอเปิดประตูบ้านออกมาดูก็ไม่ได้ยินเสียง ตอนแรกตนก็นึกว่าบ้านดังกล่าวทะเลาะกัน แต่ก็ไม่มีเสียงอะไร เจ้าหน้าที่คาดว่าฝ่ายชายน่าจะเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 48 ชม ส่วนฝ่ายหญิง คงใช้ของมีคมกรีดข้อมือตัวเอง แต่ไม่เสียชีวิต จึงได้ใช้ผ้าขาวม้าแขวนคอตัวเอง คาดว่าคงเสียชีวิตไม่เกิน 2 ชม. ส่วนสาเหตุยังอยู่ในระหว่างการสอบสวน เจ้าหน้าที่จะทำการเรียกญาติ เพื่อนสนิทมาสอบสวน เพื่อหาสาเหตุ
ส่วนลูกชายของผู้เสียชีวิต ซึ่งอายุ เพียง 7 ขวบ พูดไทยไม่ค่อยได้ ยังอยู่ในอาการตกใจขวัญผวา ขณะนี้ เพื่อนบ้านและคุณครูที่โรงเรียน รวมถึงเจ้าหน้าที่กองสวัสดิการสังคมเทศบาลเมืองเบตง จะดูแลก่อนเพื่อคอยเจ้าหน้าที่ติดต่อญาติมารับไปดูแลต่อไป.
Discussion about this post