DSI ลงเกาะรังนกเก็บหลักฐานคนร้ายบุกเกาะขโมยรังนก

DSI ลงเกาะรังนกเก็บหลักฐานคนร้ายบุกเกาะขโมยรังนก ขณะที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น จับมือชมรมพิทักษ์ผลประโยชน์จังหวัดพัทลุง เตรียมนำมวลชนตั้งเวทีปราศรัย ทวงถามความรับผิดชอบของผู้ว่าราชการจังหวัด

ผู้สื่อข่าวจังหวัดพัทลุงรายงานว่าเมื่อเวลา 09 .00 น.วันที่ 18 ก.ย.นี้ ที่ท่าเรือบ้านปากพล อ.เขาชัยสน จ.พัทลุง พ.ต.ต. ภิภพ มะโรหบุตร ผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคดีพิเศษเขตพื้นที่ 9 พร้อมคณะลงเรือเดินทางไปเกาะสี่เกาะห้า กลางทะเลสาบ ต.เกาะหมาก อ.ปากพะยูน จ.พัทลุง ซึ่งเป็นแหล่งสัมปทานรังนกอีแอ่น มูลค่า 400 ล้านบาท แต่ช่วงรอยต่อก่อนที่ผู้สัมปทานรายใหม่จะลงนามสัญญาสัมปทาน เป็นเวลา 88 วัน จังหวัดพัทลุง ได้ใช้กำลังเจ้าหน้าที่เกือบ 100 นาย เฝ้ารักษาความปลอดเกาะรังนก ใช้งบประมาณเป็นค่าตอนแทนเจ้าหน้าที่ประมาณ 5 ล้านบาท แต่ปรากฏว่ารังนกถูกคนร้ายขโมยหายไปจนหมดเกาะและยังพบร่องรอยคนร้ายก่อไฟไล่นก ที่มีเจตนาจะทำลายถ้ำนกอีแอ่นของจังหวัดพัทลุงให้เกิดความเสียหาย และชาวบ้านในพื้นที่ก็ได้ส่งหนังสือร้องเรียนให้ dsi ลงพื้นที่สอบสวนหาผู้กระทำความผิด แต่การลงพื้นที่ครั้งนี้ยังไม่ได้สอบสวนอะไร เพียงแค่ลงเกาะเพื่อเก็บหลักฐาน ร่องรอยที่คนร้ายขโมยรังนกและทำลายธรรมชาติสิ่งแวดล้อม ภายในถ้ำ เพื่อที่จะรวบรวมหลักฐานส่ง กรมสอบส่วนคดีพิเศษพิจารณา ส่งเจ้าหน้าที่ชุดใหญ่ลงพื้นที่เก็บหลักฐานอย่างละเอียดต่อไป

ส่วนที่เกาะรังนกทางบริษัทได้ส่งคนงานชุดเก็บรังนกกลับขึ้นฝั่งที่หมดแล้ว หลังจากที่ได้ทำการเก็บรังนกและเก็บขยะภายในถ้ำที่คนร้ายทั้งไว้จำนวนมาก และใช้เวลาเก็บรังนกเป็นเวลา 5 วัน ในครั้งแรก ได้รังนกขาวแค่ 34 .76 กก.รังนกดำได้จำนวน 197.76 กก.เท่านั้น ต่างกับเมื่อช่วงเดือนกันยายน ปี 2563 เก็บรังนกรอบแรกได้รังนกขาว 812.39 กก.รังนกดำ 1263 .50 กก.แต่เก็บขยะที่คนร้ายทั้งไว้ในถ้ำจำนวน 883 กก. พบร่องรอยก่อไฟรมควันไล่นกภายในถ้ำขนาดใหญ่ทุกถ้ำ ทำให้นกอีแอ่นตายเกลื่อนถ้ำ อย่างที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ทางด้านนายเกลื่อม พูนสง ประธานชมรมพิทักษ์ผลประโยชน์จังหวัดพัทลุง ก่อนหน้านี้ทางชมรมได้ส่งหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง รายงานถึงกรณีที่คนร้ายขโมยรังนกอีแอ่น แต่ก็ไม่ได้รับความสนใจจากผู้ว่าราชการจังหวัดในฐานะประธานกรรมการรังนก แต่วันนี้ชุดเจนแล้วว่าทรัพย์สินมีค่าของจังหวัดพัทลุง ได้รับความเสียหาย คนร้ายขโมยรังนกและที่สำคัญคนร้ายยังได้เหิมเกริมกล้าก่อไฟภายในถ้ำเพื่อไล่ให้นกหนีไปจากเกาะรังนกของของจังหวัดพัทลุง ซึ่งได้สร้างความเสียให้กับจังหวัดพัทลุงอย่างรุนแรง
และเพื่อทวงถามความรับผิดชอบของผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุง ในวันที่ 21 ก.ย.นี้ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในจังหวัดพัทลุง ที่มีผลได้เสียและมีรายได้จากอากรรังนกอีแอ่นเป็นงบประมาณในทุกๆปี พร้อมประชาชนชาวจังหวัดพัทลุง จากทุกอำเภอได้นัดรวมตัวเดินทาง มาตั้งเวทีปราศรัยที่สนามศาลากลางจังหวัดพัทลุง เพื่อทวงถามความรับผิดชอบของผู้ว่าราชการจังหวัดพัทลุงและเรียกร้องให้เร่งสืบสวนติดตามจับกุมกลุ่มคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ และถ้าหากยังทำอะไรไม่ได้ก็ขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดพิจารณาตัวเอง
นายเกลื่อม กล่าวอีกว่า พร้อมกันนี้ทางองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและชมรมผู้พิทักษ์ผลประโยชน์จังหวัดพัทลุง จะทำหนังสือถึงสำนักนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เพื่อให้ตรวจสอบเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นที่เกาะรังนกอีแอ่นจังหวัดพัทลุง และหาตัวผู้รับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดกับจังหวัดพัทลุงในครั้งนี้