วันที่19 กันยายน 2564 นายชนก มากพันธุ์ รอง ผวจ.แม่ฮ่องสอน เปิดงาน ประเพณี“ปอยดีกู่” หรืองานประเพณีข้าวต้มมัด ณ วัดบ้านในสอย หมู่ที่ 4 ตําบลปางหมู อ.เมือง จ.แม่ฮ่องสอน จัดขึ้นโดยนายญาณทัธ สิริวัฒน์ วัฒนธรรมจังหวัดแม่ฮ่องสอน และส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ผู้นำชุมชน เด็ก เยาวชน และประชาชนในชุมชนบ้านในสอย รวมทั้งสิ้นกว่า 300 คน เข้าร่วมกิจกรรม ภายใต้โครงการ “พัฒนากลุ่มท่องเที่ยวอารยธรรมล้านนาและกลุ่มชาติพันธุ์ภาคเหนือ”
ชุมชนบ้านในสอย มีหลากหลายชาติพันธุ์ เช่น ไทใหญ่ กะเหรี่ยงแดง กะเหรี่ยงคอยาว กะเหรี่ยงหูใหญ่ กะเหรี่ยงขาว ปะโอ และพม่า เป็นหมู่บ้านที่มีประวัติความเป็นมากว่า 150 ปี ก่อนปี พ.ศ.2425 และจัดตั้งเป็นหมู่บ้านตามประกาศกระทรวงมหาดไทยเมื่อปี พ.ศ.2480
นาย ฐิติรัฐ ไพรพนารถ ตัวแทนชาติพันธุ์กะเหรี่ยงแดงบ้านในสอย กล่าวว่า ชนเผ่ากะเหรี่ยงแดง จะเรียกตัวเองว่า “กะแย” ซึ่ง “ประเพณีดีกู่” หรือภาษากะเหรี่ยงแดง จะพูดว่า“แอ๊ะเดี๊ยะ ปอหมี่ เป็น “งานประเพณีปอยข้าวต้มมัด” ซึ่งจัดขึ้นมายาวนานตั้งแต่บรรพบุรุษในช่วงเดือนสิงหาคม-กันยายน เป็นช่วงที่มีฝนตกชุก ในพื้นที่จะมีต้นหญ้าไม้กวาด(ดีกุ)เจริญเติบโตได้ดี ช่วงนี้ใบของต้นหญ้าดีกุกำลังงาน เหมาะที่จะนำมาห่อข้าวต้มเพื่อรับประทานกันในครอบครัว ซึ่งข้าวต้มสามห่อจะถูกมัดรวมกันด้วยเส้นตอกจตากไม้ไผ่ หมายถึงการอยู่รวมกัน ความกลมเกลียวกัน เป็นช่วงเวลาแห่งความสุขที่ได้อยู่รวมกัน ต่อมาจึงกายเป็นประเพณีประจำปีที่จัดขึ้นในชุมชน สมาชิกในครอบครัวที่ไปอยู่ต่างถิ่นก็จะกลับมารวมตั้วกันในช่วงเวลานี้
นายญาณทัธ สิริวัฒน์ วัฒนธรรมจังหวัดแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า งานประเพณีปอยข้าวต้มมัดเป็นการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และสืบสารขนบธรรมเนียม ประเพณี วิถีชีวิตของกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงแดง ในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ที่มีอัตลักษณ์ทรงคุณค่า และเสน่ห์ที่โดดเด่นเอื้อต่อการพัฒนาและสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจให้กับพื้นที่ได้ตลอด เป็นการประชาสัมพันธ์ให้กับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาสัมผัสขนบธรรมเนียม ประเพณี ประวัติศาสตร์ วิถีชีวิตของกลุ่มชาติพันธุ์กะเหรี่ยงแดงในจังหวัดแม่ฮ่องสอน ให้เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย เพื่อเป็นการเสริมสร้างรายได้ให้แก่ชุมชนเพิ่มมากขึ้น
นายชนก มากพันธุ์ รอง ผวจ.แม่ฮ่องสอน กล่าวว่า จังหวัดแม่ฮ่องสอน ได้เตรียมความพร้อมที่จะเปิดรับนักท่องเที่ยวในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยวที่จะถึงตั้งแต่เดือนตุลาคม-มกราคม เรามีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติมากมายและกลุ่มชาติพันธุ์ที่โดดเด่น แม้จะเป็นช่วงสถานการณ์โควิด-19 แพร่ระบาดไปหลายจังหวัดแต่แม่ฮ่องสอนยังเป็นจังหวัดที่มีผู้ติดเชื้อไม่มากนัก สามารถควบคุมได้ จะอยากเชิญช่วงให้ชาวแม่ฮ่องสอนไปฉีดวัคซีนให้มากขึ้นเพื่อเป็นปัจจัยบวกในการเปิดการท่องเที่ยวที่จะถึงนี้.
Discussion about this post