
วันที่ 30 กันยายน 2564 ที่จังหวัดนครพนม นายอดุลย์ โบราณกุล เกษตรกรบ้านดอนแดง อำเภอนาทม เปิดเผยว่า ตอนแรกตนเองก็ทำเกษตรแล้วก็ทำนา ซึ่งการทำนานั้นไม่ค่อยจะได้ผลเท่าไหร่เพราะพื้นที่ที่ทำอยู่สูง น้ำก็ต้องสูบใส่นาปีไหนแล้งผลผลิตก็จะได้น้อย เพราะการดำนาต้นข้าวจะเกิดควบคู่ไปกับหญ้า แต่ตนเองก็ทำมาเรื่อยๆ กระทั่งท่านนายกองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านดอนแดงได้ออกมาพูดคุยด้วย บอกว่าผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมอยากให้มีคนทำโคก หนอง นา ในอำเภอนาทม เพื่อเป็นต้นแบบให้กับประชาชน ถ้าสนใจให้ส่งเอกสารไป ซึ่งตนเองก็ได้ทำตาม จากนั้นก็ได้มีการพูดคุยและนัดขุดหลังจากนั้นอีกประมาณ 1 เดือน ซึ่งงบที่ได้มาเป็นค่าน้ำมันขุดอย่างเดียว ไม่ได้มีค่าจ้างอย่างอื่นเนื่องจากเป็นงบที่ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมได้ไปขอการสนับสนุนมา
โดยเมื่อขุดเสร็จแล้วพื้นที่ตรงนี้ยังไม่มีน้ำแต่เนื่องจากผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมอยากให้ลงมือทำทันที ก็ได้ขอให้หน่วยงานต่างๆใช่วยในการสนับสนุนหาน้ำมาลงบ่อให้ก่อนเพื่อที่จะได้ลงแปลงปลูกต้นไม้และพืชผักได้ จากนั้นตนเองก็ดูแลด้วยความใส่ใจมาเรื่อยๆ ยิ่งพอทุกอย่างเริ่มเจริญงอกงามก็ยิ่งรู้สึกดีใจและภูมิใจว่าสามารถทำได้ตามความต้องการของผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม คนอื่นมาเห็นแปลงโคก หนอง นา ตรงนี้ก็อยากได้เพราะมีทุกอย่างที่ผสมผสานกันอย่างลงตัว โดยมีหน่วยงานต่างๆ มาสนับสนุน ไม่ว่าจะเป็น เป็ด ไก่ วัว ปลา หน่วยงานเกษตรก็มีการนำต้นกล้วย ไม้ยืนต้น ไม้ผล มาให้ปลูก ตนเองก็หามาเพิ่มเติมด้วยเช่นเดียวกัน และเมื่อเข้าฤดูฝน ต้นไม้ที่ปลูกก็มีการเจริญงอกงามพอดีข้าวก็กำลังจะได้เกี่ยว โดยที่ผ่านมาก็มีการขายพริก ขายผักหอม ได้เงินมาแล้วประมาณ 2 พันกว่าบาท นอกจากนั้นก็มีถั่วฝักยาว แตงกวาด้วย ตอนนี้กำลังจะปลูกใหม่อีกครั้ง ส่วนอื่น ๆ ที่รอการจำหน่าย ก็จะมีกล้วย ซึ่งก็คงอีกไม่นานเพราะเริ่มแก่เต็มที่แล้ว พริกก็กำลังจะได้เก็บรอบ 2 และอีกสักพักก็คงจะได้ขายปลาที่กำลังขุน โดยให้อาหารอีกประมาณ 3 กระสอบก็สามารถขายได้แล้ว

ซึ่งการเปลี่ยนแปลงมาทำโคก หนอง นา แบบนี้ รู้สึกว่ามีความหลากหลายในแปลงเกษตร เป็นการผสมผสานในการปลูกข้าว เลี้ยงปลา เลี้ยงสัตว์ เลี้ยงไก่ วัว ควาย ปลูกหญ้า ปลูกอะไรมีหลายๆอย่างอยู่ในแปลงตรงนี้ ทำให้มองเห็นถึงอนาคตว่ามีความสมบูรณ์พร้อมทุกอย่างเพราะเราอยู่อย่างพอเพียง ทุกอย่างที่ทำลดต้นทุนได้เป็นอย่างดี การใช้จ่ายในครอบครัวทุกอย่างไม่ได้ซื้อ ปัจจุบันพื้นที่ตรงนี้เริ่มมีคนที่สนใจเกี่ยวกับโคก หนอง นา เข้ามาเรียนรู้และดูงานแล้ว หลายคนบอกว่าต้องการทำในลักษณะแบบนี้ บางคนมีทุนก็เริ่มทำทันที ขณะที่คนไม่มีทุนก็สอบถามถึงช่องทางในการขอการสนับสนุนเหมือนตนเอง โดยในอนาคตมองว่าตรงนี้จะกลายเป็นศูนย์เรียนรู้ดังที่ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมต้องการ
Discussion about this post