สมพงษ์ ปานรุ่ง ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จ. สระบุรี
จังหวัดสระบุรี ที่ อ. วังม่วง จ. สระบุรี จากกรณีที่ทางเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ได้เปิดประตูเร่งระบายน้ำ 7 บานประตูซึ่งจะรองรับน้ำทางเหนือจากโดยน้ำในอ่างเหนือเขื่อนมี 1014 ล้านลูกบาศก์เมตร และเช้านี้มีการระบายลงท้ายเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ 1200 ลูกบาศก์เมตรต่อวินาที จึงส่งผลทหให้บ้านเรือนประชาชนวัดและโรงเรียนที่อยุ่ท้ายเขื่อนและอาศัยอยุ่ริมแม่น้ำป่าสักได้ท่วมบ้านวัดโรงเรียนจมบาดาล หลาวหลังคาเรือน ขณะที่ ชาวบ้านพระตั้งแต่เช้ามาต่างขนของอพยพขึ้นหนีน้ำกันอลหม่าน
ส่วนพื้นที่อยุ่อาศัยชาวบ้านพระอยุ่ ท้ายเขื่อนป่าสักนั้นที่รับผลกระทบด่านแรก ก็จะเป็น ชาวบ้าน หนองกรด หมุ่ที่ 5 ต. แสลงพัน อ.วังม่วง จ. สระบุรี ที่ชาวบ้านร่วม 50 หลังคา ที่อยุ่ใกล้ริมแม่น้ำป่าสักรับผลกระทบตั้งแต่ช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา น้ำเข้าท่วมบ้านของชาวบ้าน จมมิดใต้บาล จำนวน ร่วม 10 หลังคา ส่วนที่เหลือ น้ำท่วมสูง 1 เมตร ประชาชนและพระในวัดต่างขนของหนีขี้นที่สูงกันอลหม่าน ในขณะเดียวกันทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยป่อเต็กตี้ง สระบุรี เจ้าหน้าที่ทหารมณทลทหารบกที่ 18 ลงพื้นที่ช่วยกันขนของให้ชาวบ้านและนำเรือท้องแบบนมาช่วยในการขนย้าย ซึ่งช่วงเย้นนี้คาดจะมีการระบายน้ำออกจากเขื่อนขึ้นอีก
ด้าน นาง จำเรียน กุหนองกรด อายุ 54ปี ชาวบ้านหนองกรด เล่าเหตุดารณ์ว่า ช่วงคืนที่ผ่านมาเกิดน้ำทะลักเข้ามาในบ้านตน อย่างรวดเร้ว โดยตนเองอยุ่อาศัยกับลูกสาววัย 15 ปี สองคน พอเห้นน้ำเข้าบ้านตนกับลูกสาวต่างขนของที่จำเป็นขึ้นชั้นสองบ้านแต่ก็ไม่รอดน้ำท่วมจนเกิบมิด ตนได้เอาออกมาได้บางสวนข้าวของที่จำเป็น และตอนนี้ตนกับเพื่อนบ้านที่ถูกน้ำท่วมมานออาศัยที่ศาลาวัดหนองกรดในส่วนที่น้ำไม่ท่วมถึง
ส่วน หลวงพ่อ เจ้าอาวาสวัดหนองกรด อ.วังม่วง จ. สระบุรี เผยว่า ช่วงเช้าตนจะออกไปบิณบาทเห้นน้ำทะลักเข้าวัด ตนกับพระลูกวัดก็ต่างขนของในวัดที่ศาลหนีขึ้นที่สุงกันอลหม่าน
Discussion about this post