วันที่ 3 ต.ค.64 ที่บริเวณชั้น 3 ห้างสหไทยการ์เด้น พล่าซ่า อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี สมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุลาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนารี องค์ประธานกิตติมศักดิ์มูลนิธิแพทย์อาสาสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี (พอ.สว.) ทรงห่วงใยในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโควิด19 พร้อมทั้งทรงเล็งเห็นความสำคัญของการเร่งฉีดวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันให้แก่ประชาชน ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญในการป้องกันและลดการแพร่ระบาดของโรคให้เป็นไปอย่ามีประสิทธิภาพ ทรงพระราชทานวัคซีน ชิโนฟาร์ม จำนวน 5000 โดส หรือ 2500 คน แก่หน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว.ประจำจังหวัดสุราษฎร์ธานี โดยมุ่งให้การช่วยเหลือราษฎรผู้ด้อยโอกาส สูงอายุ ผู้พิการผู้ป่วยโรคเรื้อรังและผู้ประสบความเดือนร้อนจากสถานการณ์การแพร่ระบาดในทุกภูมิภาคให้สามารถเข้าถึงวัคซีนโดยเร็วผ่านหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว.
ในวันนี้ นายวิชวุทย์ จินโต ผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยมกิจกรรมการฉีดวัคซีนพระราชทาน ซิโนฟาร์ม ของหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ พอ.สว.จังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่ โดยมี นายแพทย์สำเนียง แสงสว่าง รองนายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสุราษฎร์ พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ บุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง พร้อมให้บริการฉีดวัคซีนพระราชทาน วัคซีนซิโนฟาร์มจากราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ ให้แก่ประชาชน 5 กลุ่มเป้าหมายหลักและได้ลงทะเบียนไว้แล้ว ดังนี้ 1.กลุ่มผู้พิการ 2.กลุ่มผู้ด้อยโอกาสและชุมชนแออัด 3.กลุ่มผู้สูงอายุ 70 ปี ขึ้นไป, ผู้ป่วยติดเตียง ,กลุ่มโรคเรื้อรัง 4.กลุ่มพระสงฆ์ และ 5.กลุ่มผู้ไม่สามารถเข้าถึงระบบนัดของวัคซีนได้ จำนวน 4 วัน โดยวันนี้วันที่ 3 ตุลาคม 2564 จะดำเนินการฉีดที่ห้างสหไทย การ์เด้นพล่าซ่าสุราษฎร์ธานี จำนวน 500 คน วันที่ 5 ตุลาคม 2564 ที่โรงพยาบาลบ้านสาร อ.บ้านาสาร จำนวน 600 คน วันที่ 7 ตุลาคม 2564 ที่โรงพยาบาลท่าโรงช้าง อ.พุนพิน จำนวน 800 คน และวันที่ 8 ตุลาคม 2564 ที่โรงพยาบาลบ้านตาขุน อ.บ้านตาขุน จำนวน 600 คน รวม 2500 คน ซึ่งผู้ที่เข้ารับการฉีดวัคซีนชิโนฟารม์พระราชทานในครั้งนี้ต่างสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณที่พระองค์ท่านมีต่อพสกนิกรชาวไทย
สำหรับจังหวัดสุราษฎร์ธานี ขณะนี้ได้ดำเนินการฉีดวัคซีนให้กับประชาชนไปแล้วเข็มแรกจำนวน 463,885 รายหรือ ร้อยละ 58 เปอร์เซ็นต์ เข็มที่ 2 จำนวน 328,610 ราย หรือร้อยละ 42 เปอร์เซ็นต์ จากจำนวนประชากรที่จะต้องรับการฉีดวัคซีนจำนวน 800,862 ราย หรือ 70 เปอร์เซ็นต์ของจำนวนประชากรทั้งหมด.
Discussion about this post