วันที่ 6 กันยายน 2564 ทีมตระหนักรู้สถานการณ์ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครพนม รายงานผู้ป่วยโควิดประจำวันว่า มีผู้ป่วยรายใหม่เพิ่ม 5 ราย รวมมีผู้ป่วยสะสม 4,920 ราย รักษาหายแล้ว 4,819 ราย ยังอยู่ระหว่างรักษา 74 ราย เสียชีวิตสะสม 27 ราย ซึ่งในจำนวนผู้ป่วย 5 รายนี้ มีสองรายที่ติดเชื้อจากคลัสเตอร์หมูกระทะของนักศึกษา สถาบันการศึกษาแห่งหนึ่ง โดยเริ่มจากมี นศ.ผู้หนึ่งเดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยงเมื่อช่วงต้นเดือนตุลาคมที่ผ่านมา แล้วชักชวนเพื่อนๆไปนั่งกินหมูกระทะที่เปิดอยู่ใกล้หอพักที่ตนเช่าอยู่ จากนั้นก็เริ่มมีอาการจมูกไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รู้รส ร่วมกับอาการไข้ จึงเข้ารับการตรวจหาเชื้อพบว่าติดโควิด โดยมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงล้วนเป็น นศ.จำนวนหลายคน ซึ่งผลการตรวจค้นหาเชิงรุกของทีมแพทย์ ก็พบว่ามีผู้ติดเชื้อคลัสเตอร์ดังกล่าวถึงตอนนี้ รวม 8 ราย
ในจำนวนที่เหลืออีก 3 ราย เป็นเคสงานเลี้ยงเกษียณอายุราชการที่ อบต.แห่งหนึ่ง ในเขตอำเภอนาทม ช่วงปลายเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยทั้งสามรายเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน ทั้งนี้หลังจบงานเลี้ยงเกษียณหญิงข้าราชการรายนี้ยังไปอีกหลายๆที่ในเขตอำเภอบ้านแพง และอำเภออากาศอำนวย จังหวัดสกลนคร กระทั่งต้นเดือนตุลาคมเริ่มมีอาการไข้ จึงเข้ารับการตรวจพบว่ามีผลเป็นบวก ซึ่งทราบต่อมาภายหลังว่าหญิงข้าราชการบำนาญผู้ป่วยเพิ่งได้รับการฉีดวัคซีนเมื่อวันที่ 29 กันยายน และยังนำเชื้อไปแพร่ให้กับสามีวัย 62 ปี และลูกสาววัย 37 ปี ทำงานอยู่ อบต.แห่งหนึ่งในอำเภอนาทม จึงมีผู้สัมผัสเสี่ยงสูงในที่ทำงานรวม 11 ราย เบื้องต้นคาดการณ์ว่าจะมีการปิดหมู่บ้านเพื่อตรวจค้นหาเชื้อเชิงรุก แต่ยังไม่มีคำสั่งดังกล่าวจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครพนม
ที่ศาลาประชาคมยงใจยุทธ ศาลากลางจังหวัดนครพนม ซึ่งเป็นหนึ่งใน 12 แห่งที่จังหวัดนครพนม จัดให้เป็นสถานที่สำหรับการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ให้กับเด็กนักเรียนที่มีอายุ 12 ปี ขึ้นไป ถึง 18 ปี เพื่อสร้างเกราะป้องกันให้เด็กทุกคนมีความปลอดภัย เตรียมพร้อมต้อนรับการเปิดเทอม บรรยากาศเป็นไปด้วยความคึกคักและตื่นเต้นของเด็กนักเรียน ผู้ปกครอง ตลอดจน คณะครูอาจารย์ที่นำนักเรียนในความรับผิดชอบเข้ารับการฉีด นายนายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยนางกาญจนี รุจนเสรี นายกเหล่ากาชาดจังหวัดนครพนม นายแพทย์ปรีดา วรหาร นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนครพนม ทันตแพทย์หญิงวิภารัตน์ วรหาร ประธานชมรมแม่บ้านสาธารณสุข สาขาจังหวัดนครพนม นายแพทย์ธนสิทธิ์ ไพรพงษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนครพนม ตลอดจนคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดนครพนมได้ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน เด็กนักเรียน ผู้ปกครอง พร้อมสอบถามถึงการปฏิบัติ และผลอาการข้างเคียงว่ามีเหตุเกิดขึ้นหรือไม่อย่างไร ซึ่งในวันนี้ยังไม่พบว่ามีเด็กนักเรียนที่ได้รับวัคซีนแล้วมีอาการข้างเคียงแต่อย่างใด มีเพียงเด็กบางรายที่คณะแพทย์จึงลงความเห็นว่ายังไม่อนุมัติให้เข้ารับการฉีดวัคซีนได้ เนื่องจากอายุยังไม่ครบ 12 ปีบริบูรณ์ โดยในกลุ่มนี้ทางคณะแพทย์ได้มีการบันทึกข้อมูลเพื่อติดต่อให้มารับวัคซีนในวันหลังเมื่ออายุครบ 12 ปีบริบูรณ์แล้ว
นายชาธิป รุจนเสรี ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า ทางจังหวัดนครพนมเองมีมาตรการที่จะผ่อนปรนในเรื่องของเศรษฐกิจหลายเรื่องด้วยกัน ซึ่งเมื่อวานได้มีการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดไป หลังจากนี้จะเป็นการออกประกาศเพื่อแจ้งให้พี่น้องประชาชนได้รับทราบ ว่ามาตรการที่ผ่อนปรนมีอะไรบ้าง แต่สิ่งสำคัญนอกจากการป้องกันตนเองและการดูแลรักษาสุขภาพแล้ว การฉีดวัคซีนถือเป็นภูมิคุ้มกันที่ดีที่สุด ซึ่งในขณะนี้พี่น้องประชาชนจังหวัดนครพนม ยังฉีดวัคซีนไม่ถึง 32 เปอร์เซ็นต์ของประชากรทั้งหมด เพราะฉะนั้นจึงขอเชิญชวนทุกท่านมารับวัคซีนกันเยอะๆ โดยในวันนี้เป็นการฉีดวัคซีนให้กับเด็กนักเรียนที่มีอายุ 12 ถึง 18 ปีเป็นวันแรก โดยเป็นเด็กนักเรียนที่ประสงค์จะเข้ารับการฉีดและผู้ปกครองให้ความยินยอมสมัครใจให้เด็กเข้ารับการฉีดได้ ซึ่งได้ลงทะเบียนไว้ทั้งสิ้นประมาณ 38,000 กว่าราย และในล็อตแรกนี้รัฐบาลได้อนุมัติวัคซีนให้จังหวัดนครพนม จำนวน 22,000 โดส ดังนั้นทางจังหวัดจึงมีการบริการจัดการโดยมีการนัดหมายให้กับเด็กนักเรียนเข้ารับการฉีดไปเรื่อย ๆ คาดว่าในเดือนนี้จะฉีดได้ครบตามจำนวนที่ได้รับการจัดสรรมา สำหรับนักเรียนที่ยังไม่ได้ลงทะเบียนที่ขาดอยู่ประมาณ 3 เปอร์เซ็นต์ของนักเรียนทั้งหมด ทางจังหวัดก็จะมีการประชาสัมพันธ์ให้ผู้ปกครองและนักเรียนได้รับรู้ รับทราบและเข้าใจว่าการฉีดวัคซีนนั้นไม่ได้เป็นอันตรายแต่อย่างไร รวมถึงชี้ให้เห็นถึงประโยชน์ของการฉีดว่ามีข้อดีอย่างไรด้วย.
Discussion about this post