เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม นายณัฐวุฒิ เพ็ชรพรหมศร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเพชรบุรี พร้อมด้วย นายสุชาติ อุสาหะ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เพชรบุรี เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ และประธานคณะกรรมาธิการการศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม นางศาริสา จินดาวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักศิลปากรที่ 1 ราชบุรี พร้อมเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องลงพื้นที่วัดใหญ่สุวรรณาราม จ.เพชรบุรี เพื่อตรวจสอบเสาไม้และศาลาการเปรียญของทางวัดเกิดชำรุด เพื่อเร่งหาทางบูรณะซ่อมแซม เนื่องจากภายในศาลาการเปรียญมีศิลปะภาพเขียนบนเนื้อไม้ วัฒนธรรมเก่าแก่แหล่งประวัติศาสตร์ทางพุทธศาสนา
พระครูวัชรสุวรรณาทร เจ้าคณะอำเภอเมืองเพชรบุรี เจ้าอาวาสวัดใหญ่สุวรรณาราม กล่าวว่า วัดใหญ่สุวรรณาราม หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า “วัดใหญ่” เป็นพระอารามหลวงชั้นตรีชนิดวรวิหาร เดิมชื่อว่า “วัดน้อยปักษ์ใต้” สันนิษฐานว่าเป็นวัดที่มีมานานแล้วตั้งแต่สมัยกรุงศรีอยุธยาเป็นราชธานี สภาพของศาลาการเปรียญทรงไทยสร้างด้วยไม้สักทั้งหลังมานานหลายร้อยปี มีเสาแปดเหลี่ยมเขียนลายรดน้ำ มีการแกะสลักไม้ที่สวยงามโดยเฉพาะบานประตูสลักลายก้านขดปิดทอง และยังมีธรรมาสน์เทศน์ซึ่งแกะสลักลงรักปิดทอง รูปทรงเป็นบุษบกที่งดงามและสมบูรณ์ บนผนังภายในพระอุโบสถมีภาพเขียนเทพชุมนุม อายุกว่า 500 ปี ปัจจุบันมีความชำรุดทรุดโทรมเป็นไปตามกาลเวลา โดยเฉพาะเสาไม้ มีรอยแตกเหมือนกันหมดแทบทุกต้น จึงประสานทุกฝ่ายเกี่ยวข้องเพื่อเร่งหาทางบูรณะสมบัติบรรพชน
นายสุชาติ อุสาหะ กล่าวถึงเสาและศาลาการเปรียญชำรุดว่านับเป็นปัญหาใหญ่ เนื่องจากเป็นสมบัติของชาติ จึงได้เร่งประสานทั้งสำนักงานศิลปากรให้ลงพื้นที่และฝ่ายวิศวกรรมมาตรวจสอบความเสียหาย เพื่อจะหาแนวทางในการซ่อมบำรุงให้ใกล้เคียงกับสภาพเดิมว่าจะต้องทำอย่างไรบ้าง โดยเฉพาะการดำเนินการทางด้านงบประมาณ ซึ่งจะได้ประสานไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โดยอาจจะขอเป็นงบฉุกเฉินเร่งด่วน หรืองบกลางมาดำเนินการก่อน เพราะเราคงปล่อยไว้ไม่ได้ ที่อาจจะส่งผลทำให้พังหรือเกิดการชำรุดมากไปกว่านี้
นางศาริสา จินดาวงศ์ กล่าวว่าโดยสภาพศาลาการเปรียญ มีอายุเก่าแก่ตั้งแต่สมัยอยุธยาตอนกลางถึงอยุธยาตอนปลาย ซึ่งเป็นศาลาที่ได้เคลื่อนย้ายมาจากอยุธยา แต่ด้วยสภาพแวดล้อมในสมัยโบราณอาจจะไม่ได้มีน้ำใต้ดินเยอะเหมือนสมัยนี้ อีกทั้งตัวโครงสร้างฐานรากมันเป็นไม้ธรรมดาทำให้เกิดการทรุด ส่งผลให้ตัวอาคารไม่สามารถแบกรับน้ำหนัก ทั้งเกิดจากการบูรณะมาหลายครั้งแล้ว และตัวหลังคาในสมัยโบราณไม่ได้ปั้นสันหลังคาจึงมีผลกับตัวโครงสร้างทำให้รับน้ำหนักมากเกินไป และอาจเกิดจากเนื้อไม้มันไม่มียางแล้ว ไม่สามารถที่จะมีความชุ่มชื้นในการที่จะทำให้ตัวไม้มันอยู่ได้ในสภาพเดิมจึงเกิดการแตกร้าว
นอกจากนั้นนายกฤษดากร อินกงลาศ ช่างเพชรบุรีได้กล่าวเสริมถึงปัญหาเรื่องเสาว่า เสาร้าว เสาผุ ส่งผลถึงปัญหาที่เริ่มตั้งแต่หลังคา โครงสร้างมันเป็นทั้งระบบตัวอาคาร ไม่ใช่เฉพาะตัวเสา จึงต้องปรับใหม่ตั้งแต่ฐานรากจนถึงหลังคา ตัวอาคาร เพื่อรักษาให้คงสภาพเดิมอย่างถาวร.
Discussion about this post