วันที่ 8 ตุลาคม 2564 ผู้สื่อข่าวรายงานที่ ต.ชัยฤทธิ์ อ.ไชโย จ.อ่างทอง ภายหลังจากเมื่อวานชาวบ้านที่อาศัยในพื้นที่น้ำท่วมจำนวนกว่า 20 คนได้มารวมตัวประท้วงทางหลวงอ่างทอง ที่นำแท่งแบริเออร์ มากันกระแสน้ำ ระยะกว่า 2 เมตรเพื่อไม่ให้นำเข้าท่วมถนน แต่ชาวบ้านหมู่ที่ 1 ตำบลชัยฤทธิ์ ไม่พอใจเพราะเกรงว่าน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาจะท่วมบ้านเรือนของตนสูงขึ้น อยากให้ทางชลประทานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยเปิดทางระบายน้ำให้ทีอย่านำดินมากั้นน้ำเลยเพราะชาวบ้านจำนวน131ครัวเรือน นั้น วันนี้ผู้สื่อข่าวได้นั่งเรือท้องแบนของตำรวจน้ำ ที่เข้ามาดูแลในพื้นที่น้ำท่วมของอำเภอไชโย ซึ่งในขณะนี้น้ำมีความลึกกว่า 2 เมตรจนท่วมชั้นล่าง จนชาวบ้านอยู่ไม่ได้กว่า 60 ครัวเรือน แต่วันนี้ยังถือว่าน้ำลดลงกว่า 30 ซม.หลังจากหน้าที่ยอมเปิดช่องทางน้ำระหว่างแท่งแบริเออร์ ให้น้ำไหลผ่านได้
นางณัฐสินี อิ่มลออ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ที่ 1 ต.ชัยฤทธิ์ อ.ไชโย จ.อ่างทอง ได้ให้สัมภาษณ์กับผู้สื่อข่าว ว่า หลังที่มีการร้องขอให้มีการเปิดแท่งแบริเออร์ จนน้ำได้ระบายบ้าง ทำให้ระดับน้ำจากชั้น 2 ได้ยุบลงมาเยอะประมาณ 30 ซม.ซึ่งก่อนหน้านี้ชาวบ้านจะนอนชั้น 2 ไม่ได้ ตอนนี้มีชาวบ้านพักอาศัยอยู่ในพื้นที่กว่า 60 ครัวเรือน คนที่ต้องออกมาเพราะบ้านจมน้ำหมด หรือบางคนต้องยอมทิ้งบ้านเพื่อไปเช่าบ้านอยู่ชั่วคราว เนื่องจากเพื่อความสะดวกในดารเดินทางไปทำงาน แต่ช่วงสัปดาห์นี้ คาดว่าชาวบ้าวจะเริ่มทยอยกลับบ้าน เนื่องจากระดับน้ำเริ่มลดลง ก็จะมีบางส่วนที่เข้ามาเพื่อเก็บข้าวของที่เสียหาย ณ ตอนนี้เรื่องอาหาร เรื่องน้ำ มีเพียงพอต่อชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อน เพราะจะมีหลัก ๆ อยู่แล้วคนละ 3 มื้อ และนังมีจากผู้ใจบุญที่ทยอยเข้ามานำของมาช่วยเหลือชาวบ้านตลอดทั้งวัน ตอนนี้ที่ต้องการมากที่สุดคือยา โดยเฉพาะแก้โรคน้ำกัดเท้า ตอนนี้หลายคนเริ่มเกิดอาการ เนื่องน้ำที่ท่วมขังมาหลายวันจนเริ่มเกิดมีกลิ่นเน่าเหม็น โดยเฉพาะตอนนี้บริเวณโรงนกกระทาเริ่มส่งกลิ่นเหม็นรบกวนชาวบ้าน เบื้องต้นได้ร้องขอไปยังสาธารณสุขอำเภอไชโยแล้ว โดยเจ้าหน้าที่รับปากว่าจะจัดหามาให้
นายวีระศักดิ์ วิจิตรแสงศรี ผู้ว่าราชการจังหวัดอ่างทอง กล่าวถึงกรณีที่ชาวบ้านหมู่ที่ 1 ไม่พอใจที่นำแท่งแบริเออร์ มากันกระแสน้ำ ซึ่งเป็นระยะกว่า 2 เมตรเพื่อไม่ให้น้ำท่วมถนน ซึ่งถ้าเจ้าหน้าที่นำแบริเออร์มาขวางทางน้ำแบบนี้ ชาวบ้านที่มีบ้าน 2 ชั้น ก็จะอยู่ไม่ได้ เพราะน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาจะสูงขึ้น เพราะไม่มีที่ระบายออก ต้องท่วมถึงชั้น 2 ของตัวบ้านอย่างแน่นอน โดยผู้ว่าฯปูมองว่าเป็นความแตกต่างกับความคิดเห็น เพราะระดับน้ำเมื่อวานมาโดยกะทันหัน ทำให้ชาวบ้านบางส่วนขัดแย้งทางความคิด ซึ่งทางจังหวัดได้แต่งตั้งให้นายอำเภอแสวงหา ฐานะผู้อำนวยการบรรเทาสาธารณภัย ดูแลไกล่เกลี่ยจนครบถ้วนจนยุติความขัดแย้งลงได้ โดยให้มีการระบายน้ำได้บ้างเพื่อรักษาถนนไม่ให้เสียหาย แต่ถ้าระบายน้ำมากเกินไปจะทำให้พี่น้องที่อยู่ในที่ต่ำเกิดการไม่สบายใจ หลังได้รับรายงานจึงตัดสินใจให้พบกันครึ่งทาง เพราะถ้าปิด บ้านตรงที่อยู่ในแนวกั้นก็จะอยู่กันไม่ได้ ซึ่งชาวบ้านก็ไม่ได้ให้เจ้าหน้าที่เปิดหมด ให้เปิดเพียงเพื่อให้น้ำได้มีการระบายถ่ยเทบ้าง เมื่อชาวบ้านอีกฝั่งได้รู้ถึงปัญหาของอีกฝ่าย ก็เข้าใจ ทุกอย่างจึงจบลงด้วยดี
หิรัญยวัต อธิวัฒน์เดชากร / อ่างทอง
Discussion about this post