วันที่ 8 ตุลาคม 2564 ที่จังหวัดนครพนม สำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ได้มอบหมายให้สำนักงานศูนย์วิจัยและให้คําปรึกษาแห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เชิญตัวแทนส่วนราชการหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตัวแทนภาคเอกชนและประชาชน ร่วมแสดงความคิดเห็น ข้อเสนอแนะ ต่อกรอบนิยาม ฐานข้อมูล ขั้นตอน และวิธีการกำหนดนิยามประเด็นด้านการท่องเที่ยว เพื่อสำรวจและรวบรวมความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน ก่อนจะนำไปพัฒนาระบบฐานข้อมูลตามแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี ตามโครงการจัดทำข้อมูลตามตัวชี้วัดตามแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็นการท่องเที่ยว พ.ศ. 2561 – 2580 ที่จัดทำขึ้น
นายคงกริช พงษ์พันธ์ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า การท่องเที่ยวมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทย ซึ่งจากข้อมูลการจัดอันดับขีดความสามารถทางการแข่งขันด้านการท่องเที่ยว หรือ Travel & Tourism Competitiveness Index (TTCI) ในปี 2019 ที่จัดทำโดย World Economic Forum แสดงให้เห็นว่าประเทศไทย มีความสามารถในการแข่งขันด้านการท่องเที่ยวอยู่ในลำดับที่ 31 จาก 140 ประเทศของทุกภูมิภาคทั่วโลก และมีการพัฒนาที่ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2562 ประเทศไทยมีรายได้จากการท่องเที่ยวมากกว่า 3 ล้านล้านบาท คิดเป็นประมาณร้อยละ 17 ของ GDP ทั้งยังก่อให้เกิดการจ้างงานมากกว่า 4.5 ล้านตำแหน่ง หรือคิดเป็นประมาณร้อยละ 7 ของการจ้างงานทั้งหมดในประเทศ ดังนั้นรัฐบาลจึงได้ริเริ่มจัดทำยุทธศาสตร์ชาติและแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ประเด็นการท่องเที่ยว โดยให้ความสำคัญกับการพัฒนาประเทศให้เป็นจุดหมายปลายทางของการท่องเที่ยวระดับโลก ซึ่งจะเป็นการพัฒนาการท่องเที่ยวทั้งระบบที่มุ่งเน้นการดึงดูดนักท่องเที่ยวกลุ่มคุณภาพ ควบคู่กับการพัฒนาและสร้างความหลากหลายด้านการท่องเที่ยวให้สอดคล้องกับความต้องการของนักท่องเที่ยวในสาขาที่มีศักยภาพสูง ด้วยจุดเด่นด้านวัฒนธรรม อัตลักษณ์ความเป็นไทย และให้คุณค่ากับการพัฒนาที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้ในแต่ละแผนแม่บทย่อยได้กำหนดตัวชี้วัดเพื่อบ่งชี้ความสำเร็จในการดำเนินการตามแผนแม่บท โดยเฉพาะตัวชี้วัดด้านรายได้จากการท่องเที่ยวรายสาขา ซึ่งที่ผ่านมาข้อมูลสำหรับการวัดค่าตัวชี้วัดดังกล่าวนั้นยังไม่ครอบคลุมทุกมิติ ทำให้การกำหนดแนวทางการพัฒนาและการติดตามประเมินผลการพัฒนาการท่องเที่ยวในสาขาที่มีศักยภาพ จึงยังไม่เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลเท่าที่ควร อีกทั้งยังได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด -19 ส่งผลต่อการจ้างงานและการสร้างรายได้ของประชาชน และคาดว่าหลังสถานการณ์ดีขึ้น อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของโลก จะมีการแข่งขันที่สูงมากยิ่งขึ้น เพราะหลายประเทศใช้การท่องเที่ยวเป็นกลยุทธ์สำคัญในการสร้างรายได้ โดยเฉพาะประเทศในกลุ่มอาเซียน ดังนั้นประเทศไทยจึงต้องเร่งยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันให้มากขึ้น และในวันนี้สำนักงานปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาจึงได้มีการเปิดเวทีเพื่อรวบรวมข้อมูลตามตัวชี้วัด รวมทั้งปัญหา อุปสรรคและข้อเสนอเชิงกลยุทธ์ในการพัฒนาและขับเคลื่อนเศรษฐกิจการท่องเที่ยวของจังหวัดนครพนม ซึ่งข้อมูลที่ได้จะเป็นส่วนหนึ่งในการจัดทำระบบฐานข้อมูล และการติดตามประเมินผลด้านการท่องเที่ยว เพื่อให้ประเทศไทยสามารถขับเคลื่อน พัฒนาการท่องเที่ยวได้อย่างเหมาะสมตามแผนแม่บทฯ สอดคล้องกับสถานการณ์และบริบทต่างๆ ซึ่งจะช่วยยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยให้เพิ่มมากยิ่งขึ้น
วันเดียวกัน ที่บริเวณหน้าธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) สาขาโพนสวรรค์ จังหวัดนครพนม แขวงทางหลวงแผ่นดินจังหวัดนครพนม กรมทางหลวง จัดพิธีเปิดถนน 4 เลนบนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 2028 (ท่าอุเทน-กุสุมาลย์) ตอนโพนจาน-โนนศิวิลัย ร่วมระยะทาง 2 กิโลเมตร งบประมาณ 35 ล้านบาท ช่วงหน้าตลาดสดเทศบาลตำบลโพนสวรรค์ ซึ่งเป็นแหล่งชุมชนและมีรถพลุกพล่าน ทำให้เกิดอุบัติเหตุทางถนนบ่อยครั้ง โดยมี”ครูแก้ว”นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง/ส.ส.นครพนมเขต 1 พรรคภูมิใจไทย เป็นประธาน และประชาชนในพื้นที่จำนวนหนึ่งเข้าร่วมในพิธีเปิด
นายเดชา พรวนพิทักษ์ ผู้อำนวยการแขวงทางหลวงนครพนม เปิดเผยว่าภารกิจของกรมทางหลวง คือการพัฒนาระบบทางหลวงที่สะดวกปลอดภัย เชื่อมโยงการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ การเข้าถึงและความคล่องตัวที่สมบูรณ์เพื่อขับเคลื่อนประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม และความปลอดภัยบนทางหลวงให้ได้มาตรฐาน
ด้าน ดร.พุฒิพงษ์ สุดหล้า หัวหน้างานวางแผน แขวงทางหลวงนครพนม และนายพิชัย หิรัญถาวร หัวหน้าหมวดทางหลวงท่าอุเทน ผู้รับผิดชอบและควบคุมในทางหลวงสาย 2028 ในพื้นที่จังหวัดนครพนมตลอดสาย เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่าโครงการพัฒนาทางหลวงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการจราจรและขนส่ง ปี 2564 กิจกรรมยกระดับมาตรฐานและเพิ่มประสิทธิภาพการขนส่ง โดยภายใต้การประสานงานและติดตามอย่างต่อเนื่องของนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาราษฎร คนที่สอง/ส.ส.นครพนมเขต 1
นายศุภชัย โพธิ์สุ กล่าวว่า ถนนทางหลวงแผ่นดินสาย2028 เป็นเส้นทางเชื่อมโยงระหว่างอำเภอในจังหวัดนครพนม รวมทั้งเป็นเส้นทางเชื่อมโยงระหว่างจังหวัดสกลนคร ถึงจังหวัดนครพนม เป็นเส้นทางขนส่งสินค้าที่สำคัญอีกเส้นทางหนึ่ง เนื่องจากอนาคตจะมีปริมาณจราจรสูง จึงจำเป็นต้องขยายช่องจราจร เพื่อแก้ไขปัญหาจราจร ลดอุบัติเหตุ และลดต้นทุนในการขนส่งสินค้า เพิ่มความสามารถในการแข่งขันด้านการค้าสอดคล้องกับยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศและแผนพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษและสังคมแห่งชาติ ที่สนับสนุนโลจิสติกส์และแผนยุทธศาสตร์ของประเทศ ทั้งนี้ นายศุภชัยได้กล่าวทิ้งท้ายว่าถนนทางหลวงแผ่นดินและทางหลวงชนบทก็ดี ในจังหวัดนครพนมมีเส้นทางที่น่าเป็นห่วงและยังแก้ไขพัฒนาล่าช้าอยู่ 2 อำเภอ คือ 1.ปลาปาก และ 2.โพนสวรรค์ ทั้งนี้และทั้งนั้นจะพยายามดึงงบประมาณมาสร้างถนน 4 เลนให้ครบทุกอำเภอในเวลาอันใกล้นี้
ขณะที่ ว่าที่ร้อยตรียอดเพ็มชร คำแสงดี รองผู้อำนวยการแขวงทางหลวงนครพนม ฝ่ายปฏิบัติ กล่าวว่าประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับคือ 1.เพื่อสนับสนุนและรองรับการขยายตัวของชุมชนที่เพิ่มสูงขึ้น พร้อมรองรับย่านชุมชนหนาแน่น 2.ช่วยลดการเกิดอุบัติเหตุ ลดความรุนแรงของอุบัติเหตุ เนื่องจากถนนมีเกาะกลาง มีทางเท้า ระบบระบายน้ำ 3.ทำให้การจราจรในบริเวณนี้ได้รับความสะดวกปลอดภัยและคล่องตัวมากขึ้น และ 4.สามารถรองรับปริมาณจราจรที่เพิ่มมากขึ้น โดยในปีงบประมาณ 2565 นี้ จะขยายช่องจราจร 4 เลนต่อจากหน้าตลาดสดเทศบาลตำบลโพนสวรรค์ไปถึงวัดพระธาตุโพนสวรรค์ ระยะทาง 1 กิโลเมตร และจะขยายต่อไปจนสุดเขตรับผิดชอบของแขวงทางหลวงแผ่นดินนครพนมผู้ใช้รถใช้ถนนมีข้อสงสัยกรมทางหลวงมีสายด่วน โทร 1586 ในการติดต่อติดตามให้ข้อมูลต่างๆตลอดเวลา.
Discussion about this post