จากกรณีผู้ใช้เฟสบุ๊คชื่อ “Sarocha Daengsang” โพสต์ภาพพร้อมระบุข้อความไว้ว่า “คือบ้านอยู่ริมน้ำค่ะ อยากจะให้เรือใหญ่ขับช้าๆค่ะ เพราะเวลาคลื่นมามันส่งผลกระทบกับบ้านมากๆบ้านจะพังค่ะ วอนผู้ใหญ่ช่วยประชาสัมพันธให้ทีค่ะ”
ล่าสุดเมื่อเวลา 14.30น. วันที่ 8 ต.ค.64 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บริเวณซอยต้นมะพร้าว บ้านเลขที่ 72 หมู่1 ต.ปากเกร็ด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พบนายสิทธิพงษ์ แดงสาง อายุ 47 ปี เจ้าของบ้าน เดือดร้อนเนื่องจากถูกคลื่นซัดเข้ามาภายในบ้านจากเรือที่ขับผ่านบริเวณหน้าบ้าน ทำให้ไม้ภายในบ้านเสียหายหลุดออกมากระจัดกระจายทั่วทั้งหลัง
ที่เกิดเหตุพบเป็นบ้านชั้นเดียวปลูกติดอยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาภายในบ้านมีน้ำท่วมสูงประมาณ 30 เซนติเมตร พบตู้เสื้อผ้าและตู้เก็บของแช่อยู่ในน้ำได้รับความเสียหาย ข้างฝาบ้านมีร่องรอยถูกคลื่นซัดหลุดไปหลายแผ่นเกิดจากเรือที่วิ่งผ่านด้วยความเร็ว
จากการสอบถามนายสิทธิพงษ์ เล่าว่า ตอนนี่ที่บ้านไม้หลุดออกเยอะมาก เพราะน้ำท่วมสูงมาหลายวันแล้ว น้ำจะขึ้นช่วงเย็นๆประมาณ 5-6โมง บางวันก็ไม่เป็นเวลา ตอนนี้ตนอาศัยอยู่เพียงคนเดียวเพราะให้คนที่บ้านย้ายออกหมดแล้ว เป็นห่วงเรื่องความปลอดภัยและจะสะดวกกว่าถ้าอยู่คนเดียว ทำให้ของบางอย่างยกและเก็บไม่ทัน
ตอนนี้จึงหยุดงานก่อนเพราะห่วงทางบ้าน ทำได้เพียงตกปลาแก้เครียดไปพลางๆก่อน ตอนนี้มีปัญหาเรื่องเรือที่ขับผ่านว่าอยากให้ขับกันช้าๆให้นึกถึงคนที่อยู่ติดริมน้ำบ้างอยากให้เห็นใจกันบ้าง เพราะที่บ้านเสียหายหนักจริงๆจากคลื่นที่มาจากทางเรือ มีน้ำดันขึ้นมาจากคลื่นทำให้พื้นบ้านบางส่วนเด้งออกมา ตนจึงแก้ปัญหาโดยการเอากระสอบทรายวางทับไว้เบื้องต้น ศาลาริมน้ำตอนนี้ใกล้จะพังแล้ว จึงต้องปักธงแดงไว้ ซึ่งบริเวณนี้นานๆจะท่วมสังทีจึงกังวลเล็กน้อย บ้านบริเวณริมน้ำตรงนี้อาจจะได้ผลกระทบเยอะประมาณ 40-50หลัง จึงอยากฝากถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาดูหน่อย เพราะได้รับความลำบากและเดือดร้อนจริง
Discussion about this post