บรรยากาศฉีดวัคซีนไฟเซอร์เด็กนักเรียน ในพื้นที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก วันแรกคึกคัก !!

วันนี้ 11 ตุลาคม 2564 ที่โรงเรียนภัทรวิทยา ตำบลท่าสายลวด อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก นายสมชาย ไตรทิพย์ชาติสกุล นายอำเภอแม่สอด พร้อมด้วยนายแพทย์พิพัฒ เคลือบวัง รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ โรงพยาบาลแม่สอด และนายเฉลิม กล่อมเกลี้ยง สาธารณสุขอำเภอแม่สอด ตลอดจน เจ้าหน้าที่สาธารณสุข จากโรงพยาบาลแม่สอด สาธารณสุขอำเภอแม่สอด เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลท่าสายลวด ร่วมให้บริการฉีดวัคซีน ไฟเซอร์ แก่เด็กนักเรียน โดยพบว่ามีผู้ปกครองต่างนำพาบุตรหลานมาฉีดวัคซีน คึกคัก

นายแพทย์พิพัฒ เคลือบวัง รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ โรงพยาบาลแม่สอด กล่าวว่า เป็นวันแรก ในพื้นที่ฝั่งตะวันของจังหวัดตาก ที่มีการฉีดวัคซีนไฟเซอร์ เด็กอายุ ระหว่าง 12-18 ปี โดยจุดแรก คือที่โรงเรียนภัทรวิทยา จำนวนเป้าหมาย 605 คน และภาคบ่าย ที่โรงเรียนบ้านแม่ตาว อีกจำนวน 198 คน รวมจำนวน 803 คน ซึ่งได้รับความร่วมเป็นอย่างดีจากทางโรงเรียน ในการจัดสถานที่ จัดลำดับคิว และมี ทีมแพทย์ พยาบาล ให้บริการ ในการฉีดวัคซีนในครั้งนี้

รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ โรงพยาบาลแม่สอด กล่าวอีกว่า ให้ความมั่นใจแก่ผู้ปกครอง ว่าวัคซีนคุณภาพ มีความปลอดภัย หลังฉีด มีการติดตามอาการ เป็นเวลา 30 นาที สำหรับเหตุผลที่ผู้ปกครองกลัวกัน คือในเรื่องของ 7 วัน ที่อาจจะมีเรื่องของระบบหัวใจ จริงๆ ก็พบเจอน้อย คือ 1 ล้านคน พบเจอประมาณ 100 คน แต่ทั้งนี้ ในห้วง เวลา 7 วันแนะนำให้เด็กๆ ไม่ให้ออกกำลังหักโหม หาก มีอาการ เจ็บหน้าอก หายใจเร็วเหนื่อย ให้รีบพบแพทย์ได้ ซึ่งพร้อมดูแลอยู่แล้ว ก็ให้มั่นใจได้ว่าเป็นอาการที่รักษาได้ สำหรับผลข้างเคียง สำหรับการฉีดวัคซีน ในครั้งนี้ จะต้องฉีดในกลุ่มเด็ก ที่มีอายุตั้งแต่ 12 ปี ขึ้นไป ซึ่งจะทำให้เด็กมีภูมิคุ้มกันโรค หลังฉีดไปประมาณ 10 วัน ส่วนหากมีการฉีดเข็มสอง ภูมิก็จะขึ้นถึง 90 เปอร์เซ็นต์ ทำให้มีความปลอดภัย ป้องกันในการติดเชื้อ ไม่เป็นโรค นอกจากนี้ยัง ป้องกันการป่วยหนัก และเสียชีวิต ได้ถึง 100 เปอร์เซ็นต์ การฉีดวัคซีนในครั้งนี้ เพื่อโอกาสในการเปิดโรงเรียน ให้ลูกหลานเราได้เข้าสู่ระบบการศึกษา ให้มากขึ้น และจำเป็นต้องก้าวต่อไป

สำหรับ วัคซีนไฟเซอร์ ในพื้นที่ อำเภอแม่สอด ซึ่งเป็นพื้นที่สีแดง เป็นเมืองชายแดน จุดยุทธศาสตร์ของประเทศ ได้รับจัดสรรมา ประมาณ กว่า 1 หมื่น ซึ่งผู้ปกครอง ยินยอมให้ฉีดบุตรหลาน ประมาณกว่า 9 พันคน มีความเพียงพอ จึงฝากให้ผู้ปกครองพาบุตร ขอรับการฉีดวัคซีนให้ตรงตามนัด หากหลุด วันนัด ทางจังหวัดอาจมีการเกลี่ยวัคซีน ไปยังอำเภออื่นๆ ที่ได้รับวัควีน ไม่เพียงพอ แต่หากมารับครบตามนัด ก็จะไม่ต้องเกลี่ยไปที่ไหน

ขณะที่นักเรียน ที่เข้ารับการฉีดวัคซีน ในครั้งนี้ ต่างให้เหตุผล ว่า เพื่อสร้างภูมิคุ้มกัน กับร่างกาย และไม่อยากติดเชื้อโควิด 19 นอกจากนี้ ยังต้องการ เรียน ที่โรงเรียนเปิดเรียนตามปกติ และอยากเจอเพื่อนๆ.