แพทย์หญิงเสริมศรี ปฐมพานิชรัตน์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลพัทลุงและหัวหน้าชุดดูแลโรงพยาบาลสนามในเรือนจำกลางพัทลุงเผยว่า เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด 19 ในเรือนจำกลางพัทลุง โดยไม่ทราบที่มาของเชื้อว่าติดเข้าเรือนจำได้อย่างไร ทั้งที่ทางเรือนจำก็มีการคัดกรองผู้คนเข้าออกอย่างเคร่งครัด แต่ภายหลังจากตรวจพบเชื้อโควิดในเรือนจำ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลพัทลุง ได้สั่งการให้ทีมแพทย์พยาบาลของโรงพยาบาลพัทลุง มากกว่า 20 คน มีแพทย์ร่วมในทีมจำนวน 6 คน นอกจากนั้นก็เป็นพยาบาล ที่เข้ามาดูแลผู้ติดเชื้อที่โรงพยาบาลสนามในเรือนจำ ร่วมกับทีมพยาบาลของกรมราชทัณฑ์ ที่มีความพร้อมอยู่แล้วส่วนหนึ่ง สำหรับยาและเครื่องมือแพทย์ที่จำเป็นทางโรงพยาบาลพัทลุง ก็จัดให้อย่างเพียงพอ โดยเฉพาะเครื่องช่วยหายใจที่ถือว่าจำเป็นที่ต้องใช้ให้กับผู้ป่วยที่มีอาการ โรงพยาบาลสนามในเรือนจำมีพร้อมดูแลผู้ป่วยมากกว่า 30 เครื่อง
รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลพัทลุงกล่าวอีกว่า ผู้ต้องขังในเรือนจำกลางพัทลุง มีผู้ติดเชื้อสะสมประมาณ 1400 คน รักษาหายเป็นปกติแล้วเกือบ 300 คน ส่วนที่เหลือก็รักษาตัวที่โรงพยาบาลสนาม สำหรับผู้ติดเชื้อที่แสดงอาการ บางรายมีเชื้อลงปอด ก็ส่งต่อไปนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาลพัทลุงจำนวน 25 คน โดยทางโรงพยาบาลจัดเตียงแยกจากผู้ป่วยทั่วไป ส่วนการฉีดวัคซีนให้กับผู้ต้องขังในเรือนจำนวน นักโทษทุกคนได้ฉีดวัตซีนเข็แรกครอบร้อยเปอร์เซ็น และเจ้าหน้าที่ทุกคนก็ฉีดวัคซีนเข็ม 3 แล้วเช่นกัน
ทางด้านนายธรณ์ธันย์ บัวกิ่ง ผู้บัญชาการเรือนจำกลางพัทลุง กล่าวว่า มีการเกิดระบาดของเชื้อโควิด 19 ขึ้นในเรือนจำ มีนักโทษติดเชื้อจำนวนหนึ่ง ทางโรงพย่าบาลพัทลุงก็ส่งแพทย์พยาบาลมีตรวจรักษาผู้ติดเชื้อทำให้สถานณ์การการแพร่ระบาดค่อยๆลดลง ส่วนผู้ต้องขังที่พ้นโทษหรือได้รับการพักโทษนั้น ก่อนที่จะออกจากเรือนจำ ก็ต้องได้รับการตรวจหาเชื้ออย่างละเอียดทุกคน ผู้ที่พบเชื้อก็ต้องรักษาให้หายและจะต้องกักตัวหลังไม่พบเชื้อพักกักตัวแล้ว 14 วัน ผู้ที่ตรวจไม่พบเชื้อทางเรือนจำก็ยังมีสถานที่พักกักตัว 14 วันเช่นกัน เมื่อมั่นใจแล้วก็จะปล่อยให้กลับไปอยู่ร่วมกับครอบครัว เพาะฉะนั้นผู้ปกครองมั่นใจได้ว่า ผู้ต้องขังที่ออกจากเรือนจำจะไม่นำเชื้อมาติดคนใกล้ชิดแน่นอน
Discussion about this post