จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) ในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดนใต้ (สงขลา ปัตตานี ยะลา นราธิวาส)ทำให้เจ้าหน้าที่สาธารณสุขตรวจพบว่ามีการแพร่ระบาดของสายพันธุ์เบตา อัลฟา เดลตา อย่างเต็มพิกัด ส่งผลทำให้มีเด็กและเยาวชน ผู้ใหญ่ และผู้สูงอายุ มีตัวเลขผู้ติดเชื้อและเสียชีวิต จากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) พุ่งสูง อย่างต่อเนื่อง ไม่มีทีท่าว่าจะลดลงได้
วันนี้ 14 ต.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ โรงยิมสนามกีฬาสะเตงนอก หมู่ที่ 6 บ้านกะตุปะ ต.สะเตงนอก อ.เมืองยะลา จ.ยะลา นางกาญจนา อุดมวงศ์ศักดิ์ หัวหน้าผู้ดูแลโรงพยาบาลสนามสะเตงนอก และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เร่งตรวจเช็คระบบไฟฟ้าและสาธารณูปโภคต่างๆ ให้มีความพร้อม เพื่อรองรับผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 จากพื้นที่ อ.เมืองยะลา จ.ยะลา
จำนวน 200 คน ก่อนที่จะเปิดใช้งานอย่างเป็นทางการ ในช่วงบ่ายวันนี้ ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลยะลาและโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลสะเตงนอก ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่พยาบาล จำนวน 5 คน และแพทย์ จำนวน 2 คน คอยดูแลผู้ป่วยอย่างเต็มระบบ
นอกจากนั้น โรงเรียนเทศบาล 2 (บ้านมลายูบางกอก) ติดถนนสุขยางค์ เขตเทศบาลนครยะลา อ.เมืองยะลา จ.ยะลา ได้ตั้งเป็นศูนย์แยกโรคชุมชน Community Isolation แห่งที่ 3 ของเทศบาลนครยะลา รองรับผู้ป่วยติดเชื้อโควิด-19 ในเขตเทศบาลนครยะลา ประมาณ 180 เตียง อีกด้วย หลังจาก นายภิรมย์ นิลทยา ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ได้มีแนวคิดว่า จะต้องมีศูนย์พักคอยผู้ป่วยในท้องถิ่นแต่ละแห่งเพื่อรองรับอัตราการเพิ่มจำนวนผู้ป่วยรายใหม่ซึ่งอยู่อันดับ 2 รองจากกรุงเทพมหานคร ติดต่อกันหลายวัน โดยเมื่อวันที่ 14 ต.ค.64 จ.ยะลา เจ้าหน้าที่สาธารณสุขจังหวัดยะลา พบมีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 785 ราย ป่วยสะสม 32,095 ราย รักษาใน รพ.7,366 ราย รักษาหายแล้ว 24,505 ราย เสียชีวิต 2 ราย สะสมรวม 224 ราย เน้นย้ำฉีดวัคซีนช่วยลดอาการป่วยไม่ให้เสียชีวิต ปฎิบัติตามมาตรการกระทรวงสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด
Discussion about this post