
วันที่ 15 ต.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงามาจากจังหวัดแม่ฮ่องสอนว่า ตำรวจภูธรภาค 5 ได้ชี้แจงว่า ตามที่ได้มีสื่อเผยแพร่ข่าว เด็กชายชาวรัสเซียตกบ่อน้ำร้อนในอำเภอปายได้รับบาดเจ็บสาหัส และมารดาของเด็กแจ้งต่อสื่อว่า ตำรวจไทยไม่รับแจ้งความ นั้น ตำรวจภูธรภาค 5 ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย ผบช.ภ.5 , พล.ต.ต.กฤตธาพล ยี่สาคร รอง ผบช.ภ.5 และ พล.ต.ต.บัณฑิต ตุงคะเศรณี รอง ผบช.ภ.5
ตำรวจภูธรจังหวัดแม่ฮ่องสอน โดย พล.ต.ต.พิชญา บุญขจร ผบก.ภ.จว.แม่ฮ่องสอน พ.ต.อ.ศิริพงษ์ ศรีทัน รอง ผบก.ภ.จว.แม่ฮ่องสอน, พ.ต.อ.วชิระ กาญจนวิภาดา รอง ผบก.ภ.จว.แม่ฮ่องสอน พ.ต.อ.สันติ วรรณรักษ์ รอง ผบก.ภ.จว.แม่ฮ่องสอน และ พ.ต.อ.กิตติภูมิ เอกสิงหชัย รอง ผบก.ภ.จว.แม่ฮ่องสอน สั่งการให้ตรวจสอบเหตุดังกล่าว
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปาย โดย พ.ต.อ.ธนพล บินทปัญญา ผกก.สภ.ปาย, พ.ต.ท.จะเด็ด หินทองคำ รอง ผกก.ป.ฯ , พ.ต.ท. พจนเดช พุทธวงค์ รอง ผกก.(สอบสวน)ฯ, พ.ต.ต.นพคุณ อรรถธรรมคุณ สวป.ฯ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายป้องกันปราบปรามและสอบสวน สภ.ปาย ได้ร่วมกันทำการตรวจสอบกรณีดังกล่าว รายละเดียดปรากฎได้ความว่า
ภายหลังได้รับทราบว่ามีสื่อลงข่าว สภ.ปาย ได้ทำการตรวจสอบไปยังโรงพยาบาลปาย ทราบว่ามีเด็กชายชาวรัสเซียถูกนำส่งโรงพยาบาลโดยได้รับบาดเจ็บถูกน้ำร้อนลวกที่ร่างกาย โดยมารดาเป็นผู้นำมาส่งเมื่อวันที่ 4 ตุลาคม 2564 เวลา 12.32 น. ทางโรงพยาบาลแจ้งว่าได้ทำการรักษาพยาบาลเบื้องต้น แต่เนื่องจากเด็กมีอาการหนัก จะต้องส่งไปรักษาตัวที่โรงพยาบาลที่มีศักยภาพในจังหวัดเชียงใหม่ จากนั้นจึงได้รีบนำตัวเด็กชายดังกล่าวส่งยังไปโรงพยาบาลเชียงใหม่รามโดยทันทีโดยรถพยาบาลของโรงพยาบาลปายพร้อมกับมารดาของเด็ก โดยที่เกิดเหตุเป็นโป่งน้ำร้อนเหมืองแร่ เมืองแปง บ้านสบสา หมู่ที่ ๒ ต.เมืองแปง อ.ปาย จ.แม่ฮ่องสอน
ทาง สภ.ปาย จึงได้ตรวจสอบกับพนักงานสอบสวนและเจ้าหน้าที่ทุกนายที่ปฏิบัติหน้าที่ระหว่างวันที่ 4 ตุลาคม 2564 จนถึงปัจจุบัน ได้ยืนยันว่าไม่มีผู้ใดมาแจ้งความในเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด เมื่อตรวจสอบวันดังกล่าวมี พันตำรวจตรี ธงธรรศ ริยะ เป็นพนักงานสอบสวนเวร ก็ยืนยันว่าไม่มีผู้ใดมาแจ้งเรื่องดังกล่าวแต่อย่างใด และได้ทำการตรวจสอบบันทึกประจำวันก็ไม่พบว่ามีผู้ใดมาแจ้งความไว้แต่
อย่างใด ประกอบกับได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในสถานีตำรวจ ในวันที่ 4 ตุลาคม 2564 ก็ไม่พบว่ามีชาวต่างชาติมาใช้บริการแต่อย่างใด โดยหากมีชาวต่างชาติโดยเฉพาะอย่างยิ่งเป็นนักท่องเที่ยวมาติดต่อขอความช่วยเหลือหรือแจ้งความไม่ว่ากรณีใดทาง สภ.ปาย จะให้ความสำคัญ โดยจะประสานไปยังตำรวจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่(แม่ฮ่องสอน) เพื่อจัดหาล่ามและเป็นผู้ประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาให้ความช่วยเหลือในฐานะนักท่องเที่ยวทุกครั้ง แต่กรณีดังกล่าวตรวจสอบแล้วไม่ปรากฏว่ามีการแจ้งความแต่อย่างใด จึงได้ตรวจไปยังสถานที่เกิดเหตุพบว่าเป็นบ่อน้ำร้อนซึ่งอยู่บริเวณริมถนนที่มีรถสัญจรผ่านไปมา มีน้ำร้อนพุดจากใต้พื้นดิน ผู้คนสามารถเข้าไปชมได้ ไม่มีการคิดค่าบริการและไม่มีผู้ดูแล มีป้ายเตือนพื้นที่อันตรายห้ามลงเล่น Danger แต่ไม่มีไม้กั้น จุดที่พลัดตกไม่ทราบว่าเป็นบริเวณใด แต่พื้นที่ดังกล่าวมีอุณหภูมิสูงหากโดนน้ำร้อนก็จะเป็นอันตรายได้

จากการตรวจสอบทราบว่านางอิลิน่า แม่ของเด็ก ให้ข้อมูลกับผู้สื่อข่าวผ่านล่ามว่า ตนเองพร้อมสามีและลูกชายได้เดินทางมาจากพัทยาเพื่อมาเที่ยวภาคเหนือโดยลงเครื่องที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมา จากนั้นได้เช่ารถไปเที่ยวที่อำเภอปาย จังหวัดแม่ฮ่องสอน ในวันที่ 4 ตุลาคม 2564 ระหว่างทางได้แวะน้ำพุร้อนและถ่ายรูป ซึ่งลูกชายได้พลัดตกลงไปในบ่อน้ำร้อนประมาณ 5 วินาที เธอจึงได้รีบนำตัวลูกชายไปรักษาที่โรงพยาบาลปาย ซึ่งโรงพยาบาลปายไม่สามารถรักษาอาการได้ จึงส่งมารักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลเชียงใหม่-ราม ซึ่งขณะนั้นร่างกายของลูกชายผิวหนังพุพอง เริ่มยุ่ยหมดแล้ว เมื่อมาถึงโรงพยาลบาลเชียงใหม่-ราม แพทย์ต้องเร่งทำการรักษา ซึ่งลูกชายมีอาการโดนน้ำร้อนลวกตั้งแต่บริเวณท้อง แขน ขา ต้องทำการผ่าตัดถึง 3 ครั้ง จนล่าสุดพ้นขีดอันตรายแล้ว แต่ยังต้องรักษาตัวอยู่ในห้องไอซียู ปัญหาที่กังวลคือเรื่องค่ารักษาพยาบาลเนื่องจากไม่ได้ทำประกันไว้ ซึ่งในเบื้องต้นตำรวจท่องเที่ยวจังหวัดเชียงใหม่ ได้เข้าไปพูดคุยและช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว ประกอบกระทรวงท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดเชียงใหม่อยู่ระหว่างการพิจารณาในเรื่องของกองทุนช่วยเหลือเยียวยานักท่องเที่ยวในเรื่องของการรักษาพยาบาลต่อไป ซึ่งปัจจุบันเด็กได้ถูกนำรักษาตัวต่อยังโรงพยาบาลนครพิงค์ จ.เชียงใหม่
กรณีที่เกิดขึ้น ทาง สภ.ปาย ไม่ได้นิ่งนอนใจ ได้ประสานไปยัง อบต.เมืองแปง ให้จัดทำป้ายเตือนเพิ่มเติม เพื่อมิให้เกิดเหตุซ้ำอีก พร้อมทั้งกำชับให้เจ้าหน้าที่ตำรวจของ สภ.ปาย ทุกนาย ใส่ใจ ให้ความสำคัญแก่นักท่องเที่ยวที่เข้ามาในพื้นที่ บริการและให้คำแนะนำช่วยเหลือหากมีผู้ได้รับความเดือดร้อนหรือขอให้ช่วยเหลือทุกเรื่องทุกกรณี ให้รู้สึกถึงความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สิน และท่องเที่ยวอย่างมีความสุข ในพื้นที่ จ.แม่ฮ่องสอน รวมถึงเป็นศูนย์กลางในการประสานงานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เข้ามาช่วยเหลือดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว ถูกต้องและเป็นธรรม.
Discussion about this post