“ครูแก้ว” พาชมโรงเรือนกัญชาต้นแบบ ทำแหล่งศึกษาเรียนรู้เสริม สร้างรายได้ – ประโยชน์ทางการแพทย์

วันที่ 17 ตุลาคม 2564 ที่บริเวณด้านหลังตลาดสดพูนสุข ต.ศรีสงคราม อ.ศรีสงคราม จ.นครพนม ซึ่งได้เปิดเป็นโรงเรือนกัญชาต้นแบบ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นแหล่งสร้างฐานความรู้เรื่องกัญชา แก่เกษตรกรผู้ที่มีความสนใจเกี่ยวกับกัญชาในทุกมิติ เพื่อเป็นแนวทางการประกอบอาชีพเสริมสร้างรายได้อย่างยั่งยืนในอนาคต และเพื่อประโยชน์ทางการแพทย์ พร้อมส่งเสริมเป็นพืชเศรษฐกิจสำคัญอีกชนิดหนึ่งของจังหวัดนครพนม โดยมี “ครูแก้ว” ศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่สอง/ส.ส.นครพนม เขต 1 พรรคภูมิใจไทย และ นายทันใจ ณ รังสี ประธานสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม/ประธานวิสาหกิจชุมชนฯ เป็นผู้กล่าวถึงรายละเอียดแก่สมาชิกสหกรณ์ครู อ.ธาตุพนม และ อ.เรณูนคร ประมาณ 30 คน ได้รับทราบถึงการตั้งโรงเรือนดังกล่าว

ครูแก้ว เปิดเผยว่า การปลูกกัญชาทางการแพทย์ ถือเป็นนโยบายของพรรคภูมิใจไทยในการหาเสียงเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา เพราะเห็นประโยชน์จากกัญชาสามารถนำไปใช้ในทางการแพทย์เพื่อรักษาผู้ป่วย หรือเพื่อการศึกษาวิจัยและพัฒนา หลังจากนั้นทางพรรคก็เดินหน้าปรับแก้กฎหมายยาเสพติดให้โทษ เพื่อเปิดโอกาสให้ประเทศไทย สามารถนำพืชกัญชาและสารสกัดมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์ บนพื้นฐานตามมาตรฐานของหลักวิชาการ ภายใต้การควบคุมดูแลของผู้ได้รับอนุญาตตามกฎหมายว่าด้วยยาเสพติดให้โทษ โดยโรงเรือนกัญชาต้นแบบ ตลาดสดพูนสุข แยกออกเป็น 3 แบบ คือ 1.การปลูกกัญชาในโรงเรือน (semioutdoor cultivation) 2.การปลูกกัญชาในระบบปิด (indoor cultivation) และ 3.การปลูกกัญชากลางแจ้ง (outdoor cultivation) ซึ่งมีผู้เชี่ยวชาญนำพืชกัญชาทั้ง 3 แบบนี้ไปวิจัยในห้องแล็บ หาข้อดีข้อเสียของแต่ละแบบมาศึกษาวิจัยต่อไป

“เราได้ขออนุญาตจากกระทรวงสาธารณสุขเขตสุขภาพที่ 8 ปลูกพืชกัญชารวม 980 ต้น สมาชิกเบื้องต้น 30 ราย มีบริษัทเคซีพร็อพเพอร์ตี้ เป็นผู้ออกแบบสร้างโรงเรือนเพาะปลูก ประมาณ 20 วันโรงเรือนนี้ก็จะเสร็จสมบูรณ์เป็นศูนย์เรียนรู้อย่างครบวงจร ผู้สนใจสามารถเข้ามาศึกษาเรียนรู้ได้ตลอดเวลา และจะเดินหน้าตั้งโรงเรือนกัญชาต้นแบบในอีกหลายๆอำเภอในจังหวัดนครพนม” นายศุภชัยฯ กล่าว

นอกจากนี้ นายทันใจ ณ รังสี ได้พาผู้สื่อข่าวไปยังวิสาหกิจชุมชนตำบลนาคำ หนองแคนช้าง บ้านโพนงาม ต.นาคำ อ.ศรีสงคราม ซึ่งเป็นโรงเรือนกัญชาแห่งแรกของจังหวัดนครพนม โดยเปิดเผยว่าได้รัยบอนุญาตให้ปลูกจำนวน 50 ต้น ประมาณ 4 เดือนเศษก็สามารถเก็บผลผลิตได้ โดยวันที่จะเก็บผลผลิตต้องมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุขร่วมเป็นสักขีพยาน ช่อหรือดอกจะนำไปปรุงเป็นยารักษาโรค ส่วนใบ ลำต้น และราก มอบให้วิสาหกิจชุมชนฯนำไปจำหน่าย โดยมีใบรับรองอย่างถูกต้องตามกฎหมาย จากนั้นต้องมีหนังสือขออนุญาตปลูกพืชกัญชาต่อ หากไม่ประสงค์จะปลูกก็ต้องมีหนังสือแจ้งให้สาธารณสุขทราบเช่นเดียวกัน.