
วันที่ 18 ตุลาคม 2564 ที่ศาลปกครองเชียงใหม่บริเวณศูนย์ราขการจังหวัด อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ผศ.ดร.ทัศนัย เศรษฐเสรี อาจารย์สาขาสื่อศิลปะและออกแบบสื่อ คณะวิจตรศิลป์ พร้อมนักวิชาการ และนักศึกษา มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ (มช.) กว่า 20 คน ได้ยื่นหนังสือ เพื่อขออำนาจศาลปกครอง ขอคุ้มครองคำสั่งชั่วคราว กรณีไม่อนุมัติใช้หอศิลป์ เพื่อจัดแสดงผลงานทางวิชาการของนักศึกษาภาคเรียนที่ 1/2564 โดยใช้โซ่คล้องประตูทางเข้าด้านหน้า และล็อคประตูรั้วทั้งหมด ทำให้อาจารย์และนักศึกษากว่า 50 คน ถูกขังในหอศิลป์ดังกล่าว ก่อนอาจารย์และนักศึกษา ใช้คีมตัดโซ่คล้องประตู เพื่อเปิดหอศิลป์ ให้นักศึกษาเข้าไปจัดแสดงผลงานดังกล่าว เมื่อวันที่ 16 ตุลาคมหรือ 2 วันที่ผ่านมา มี น.ส.ทัศนีย์ บูรณุปกรณ์ ส.ส.เชียงใหม่ เขต 1พรรคเพื่อไทย ร่วมสังเกตการณ์ พร้อมให้กำลังใจอาจาย์ นักศึกษาดังกล่าว โดยใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง
ผศ.ดร.ทัศนัย กล่าวว่า มายื่นหนังสือคำร้อง เพื่อขอให้ศาลใช้ดุลพินิจออกคำสั่งคุ้มครองชั่วคราว หลังคณะวิจิตรศิลป์ และ มช. ปฏิเสธการใช้พื้นที่หอศิลป์ เนื่องจากมีความเร่งด่วน เพราะนักศึกษาชั้นปีที่ 1-4ต้องแสดงผลงานทางวิชาการ โดยเฉพาะนักศึกษาชั้นปีที่ 4 ที่ใกล้จบการศึกษา ต้องแสดงผลงานให้เสร็จสิ้นภายในเทอมนี้ ไม่ใช่นั้นอาจารย์ไม่สามารถออกเกรดได้ จึงมาขออำนาจศาลคุ้มครองให้ มช.อนุญาตใช้หอศิลป์ เพื่อแสดงผลงานและส่งงานตามกำหนดได้
“หากมหาวิทยาลัยฯ ไม่อนุญาตให้ใช้สถานที่ โดยอ้างว่าขัดต่อพระราชบัญญัติความมั่นคง ม. 116 นั้น มีผลกระทบต่อนักศึกษาทั้งระยะสั้น เรื่องการวางแผนของนักศึกษาหลังสำเร็จการศึกษา ระยะยาว มีผลต่อภาพลักษณ์และชื่อเสียงคณะวิจิตรศิลป์ และมหาวิทยาลัยฯรวมทั้งเกียรติภูมิการศึกษาไทย อาจถูกทำลายลงจากเรื่องดังกล่าวและไม่เป็นที่ยอมรับวงการศึกษาทั่วโลกได้” นายทัศนัย กล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากมหาวิทยาลัยฯ ฟ้องร้องหรือแจ้งความดำเนินคดี กรณีมีอาจารย์และนักศึกษา เข้าไปบุกยึดหอศิลป์ เพื่อใช้จัดแสดงผลงานดังกล่าว จะต่อสู้คดีอย่างไร นายทัศนัย กล่าวว่า ทราบว่ามีผู้บริหารได้ไปแจ้งความ ข้อหาบุกรุกและทำลายทรัพย์สินทางราชการแล้ว ต้องสู้คดีตามกระบวนการยุติธรรม เพราะหอศิลป์ คือสถานที่การศึกษา เป็นสาขาวิชาที่อาจารย์และนักศึกษาต้องเข้าไปทำงานตลอดเวลาอยู่แล้ว แต่การล็อคประตูไม่ให้เข้าไปใช้สถานที่จนเป็นเหตุเกิดการทำลายทรัพย์สินดังกล่าว ซี่งปกติเราเข้าไปทำงานและเรียนหนังสือกันอยู่แล้ว

“ช่วงที่อาจารย์และนักศึกษาที่ถูกประตู และถูกขังภายในหอศิลป์นั้นมีผู้ถุกขังกว่า 40-50 คน โดยถูกขังทั้งคืน ไม่มีน้ำและไฟฟ้า ดังนั้นผู้บริหารมหาวิทยาลัยฯ อย่ามองนักศึกษาเป็นศัตรู เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ควรเป็นเรื่องเลย แค่นักศึกษาต้องการส่งงานตามเวลาปกติ มีคณาจารย์ตรวจงานตลอดเวลาอยู่แล้ว ไม่เข้าใจว่าเกิดเรื่องดังกล่าวขึ้นได้อย่างไร อยากฝากถึงผู้บริหารว่า ให้คิดถึงอนาคตนักศึกษาปัจจุบัน และนักศึกษาที่เข้ามาใหม่ ว่าให้มีความหวังต่ออุดมศึกษาไทยหากมีอะไรพูดจากันได้ ไม่ใช่วิ่งหนีกันอย่างนี้ ส่วนตัวเชื่อศาลให้ความคุ้มครองชั่วคราว เพราะเป็นเรื่องจำเป็นเร่งด่วนด้วย” นายทัศนัย
กล่าว
ด้าน น.ส.ทัศนีย์ กล่าวว่า ในฐานะศิษย์เก่า อยากเรียกร้องผู้บริหารเปิดใจคุยกัน เพื่อรับฟังปัญหาและข้อเสนอแนะของอาจารย์และนักศึกษา ที่ได้รับผลกระทบดังกล่าว เพราะข่าวที่ออกไปไม่เป็นผลดีต่อมหาวิทยาลัยฯ ส่วนตัวมองว่าเป็นการปิดกั้นการแสดงออกนักศึกษาและขัดต่อสิทธิข้้นพื้นฐานการแสดงออกตามรัฐธรรมนูญ เรื่องดังกล่าวไม่มีอะไรเลย ถ้าผู้บริหารใจกว้างและยอมให้ใช้สถานที่จัดนิทรรศการวิชาการเท่านั้น เพราะมีอาจารย์ที่ตรวจงานเป็นคนรับผิดชอบอยู่แล้ว
“กรณีมีอาจารย์และนักศึกษา ถูกขังในหอศิลป์ อาจเกิดอันตรายและความเสียหายภายหลังได้ อาจเข้าข่ายกักขังหน่วงเหนี่ยงและคุกคามได้ ดังนั้นต้องนั่งจับเข่าพูดคุยกัน เพื่อหาทางออกอย่างสันติวิธี โดยคำนึงถึงสิทธิประชาชนขั้นพื้นฐานมากที่สุด ส่วนตัวเป็นศิษย์เก่าและมีความรักในสถาบัน อยากให้มหาวิทยาลัยฯ มีชื่อเสียง และผลงานวิชาการติดอันดับ ดังนั้นต้องให้โอกาสนักศึกษาได้แสดงความคิดเห็น หรือแสดงออกผ่านผลงานวิชาการเชิงศิลปะ และมุมมองทางการเมือง เพราะถือเป็นสิทธิส่วนบุคคล ไม่ควรปิดกั้นอย่างใด เรื่องดังกล่าวยังไม่สาย ถ้าพูดคุยตกลงกันได้ เชื่อเรื่องดังกล่าว อาจไม่ขี้นฟ้องร้องกันอีก” น.ส.ทัศนีย์ กล่าว
//////////////////////
ทีมข่าว Talknews online รายงาน
Discussion about this post