
วันที่ 29 ตุลาคม 2564 ที่องค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) เชียงใหม่ นายชัชวาลย์ ฉายะบุตร รองผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เป็นประธานพิธีลงนามความร่วมมือการบูรณาการ เพื่อพัฒนา และเพิ่มศักยภาพแหล่งท่องเที่ยวทางด้านศาสนสถาน (วัด) ในเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ ด้วยการติดตั้งระบบไฟฟ้าส่องสว่างประสิทธิภาพสูง และพลังงานแสงอาทิตย์ มีนายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร หรือ ส.ว.ก๊อง นายก อบจ.เชียงใหม่ นายบุญญนิตย์ วงศ์รักมิตร ผู้ว่าการไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) แห่งประเทศไทย น.พ.นิเวศน์ นันทจิต อธิการบดีมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ นางจุรีรัตน์ ใจแข็ง ผู้อำนวยการสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่ น.ส.ชนิสา ชมศิลป์ ประชาสัมพันธ์จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมลงนาม มีนายพัฒนา แสงศรีโรจน์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ร่วมเป็นสักขีพยาน โดยใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง
นายพิชัย กล่าวว่า โครงการดังกล่าว เป็นความร่วมมือในการพัฒนาวัดให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมในระดับสากล เพื่อส่งเสริมฟื้นฟูเศรษฐกิจให้กับชุมชน จากการเพิ่มขึ้นของนักท่องเที่ยวหลังสถานการณ์โควิด-19 รองรับนโยบายการเปิดประเทศของรัฐบาล เพื่อสร้างความปลอดภัยภายในวัดจากการใช้ไฟส่องสว่าง LEDสร้างความสวยงามยามค่ำคืนเพื่อเป็นต้นแบบขยายผลการส่งเสริมนวัตกรรมพลังงานที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและส่งเสริมการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์

นายบุญญนิตย์ กล่าวว่า กฟผ. สนับสนุนงบเพื่อการติดตั้งไฟฟ้าส่องสว่างประสิทธิภาพสูง และพลังงานแสงอาทิตย์ ประกอบด้วย โคมส่องสว่างชนิด
LED และโคมส่องสว่างชนิด LED ระบบโซลาร์เซลล์ ภายในวัดเขตเทศบาลนครเชียงใหม่ นำร่องในเส้นทางถนนคนเดินท่าแพ จำนวน 7 แห่ง ได้แก่ วัดหมื่นล้าน วัดพันอ้น วัดสำเภา วัดพันเตา วัดชัยพระเกียรติ วัดทุงยู และวัดศรีเกิด กำหนดแล้วเสร็จ
มิถุนายน ปีหน้า โดย กฟผ. และพันธมิตร 5 หน่วยงาน จะทำการออกแบบและติดตั้งระบบไฟฟ้าส่องสว่างให้เป็นไปตามหลักวิชาการ ตลอดจนการประชาสัมพันธ์ และจัดทำป้ายประชาสัมพันธ์ ในศาสนสถานดังกล่าว พร้อมตรวจติดตามและประ เมินผลโครงการในมิติต่างๆเพื่อนำมาวิเคราะห์เป็นแนวทางพัฒนาและออกแบบเพิ่มเติมของศาสนสถานอีก 31 แห่ง ในเฟสที่ 2 ต่อไป
///////////////////////////////
ทีมข่าว Talknews online รายงาน
Discussion about this post