
วันที่ 15 พฤศจิกายน 2564 ที่ศาลากลางจังหวัดสกลนคร นายศรีสมพร ทองนา ราษฎรบ้านท่าแร่ ม.4 ต.โพนงาม อ.อากาศอำนวย จ.สกลนคร พร้อมด้วย นายสุริยา บุญชาญ ผญบ.ท่าแร่ ต.โพนงาม และชาวบ้านกว่า 30 คน เดินทางมายื่นหนังสือต่อ ผวจ.สกลนคร เพื่อทวงถามกรณีได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบแนวเขตที่ดินทำนาและเลี้ยงสัตว์ ซึ่งมีการแต่งตั้งมาแต่ปี 2562 จนปัจจุบันยัวไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ ซึ่งที่ดินดังกล่าว จำนวน 6,000 ไร่ ชาวบ้านกว่า 100 ครัวเรือน ใช้ที่ดินดังกล่าวเลี้ยงสัตว์ และทำนาปรังมาตั้งแต่บรรพบุรุษ ต่อมามีบริษัทเอกชนรายหนึ่งเข้ามาซื้อที่ดินดังกล่าวและเข้าถือครอง จึงต้องการให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบให้ชัดเจน ว่าเป็นของเอกชนหรือที่ดินสาธารณะ ต่อมา นายสังสรรค์ อุ่นคำ ผอ.ศูนย์ดำรงธรรม จ.สกลนคร ได้มารับเรื่องและรับปากว่าจะส่งเรื่องให้ผู้บังคับบัญชาและส่งเจ้าหน้าที่ ออกร่วมกับชาวบ้านตรวจสอบแนวเขตที่ดินว่าเป็นที่สาธารณะ หรือที่ดินเอกชน ต่อไป
นายสุริยา บุญชาญ ผญบ.ท่าแร่ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2564 ที่ผ่านมาได้มีผู้อ้างว่าเป็นนายตำรวจยศ ร.ต.อ. เข้ามาบริเวณ “นาทาม” (นาในพื้นที่น้ำท่วมถึงริมฝั่งแม่น้ำสงคราม ซึ่งชาวบ้านจะทำนาหลังฤดูฝน) ของบ้านท่แร่ หมู่ 4 เป็นที่นาที่ชาวบ้านทุกครัวเรือนในหมู่บ้านได้เข้ามาทำในฤดูน้ำลดเป็นประจำทุกปีตามวัฒนธรรมประเพณีการใช้ประโยชน์พื้นที่มาช้นาน และทุกคนต่างทราบดีว่า พื้นที่ตังกล่าวเป็นที่สาธารณะประโยชน์ “บ่าทามทุ่งหนองเข้ตีนกุด” ของหมู่บ้านไม่มีใครสามารถถือครองและยืดว่าเป็นที่ดินของตนเองแต่อย่างใด นายตำรวจคนดังกล่าวได้พบกับตน ซึ่งกำลังทำงานเลี้ยงควายอยู่บริเวณดังกล่าว และได้แจ้งว่าตนเข้ามาเพราะได้รับแจ้งว่มีรถไถนาสองคันกำลังทำงานไถนาบุกรุกที่ดินซึ่งบริษัทเอกชนถือครอง และมีเอกสารสิทธิอยู่ โดยผู้แจ้งคือเจ้าของที่ดิน ขอให้ผู้ใหญ่บ้านบอกชาวบ้านว่าตนจะจับกุมทันที่หากมีชาวบ้านคนใดนำรถไถเข้ามาในบริเวณดังกล่าวเพราะต้องการเงินรางวัลนำจับ

“หากต้องการใช้ประโยชน์พื้นที่บริเวณนี้ จะต้องไปทำหนังสือสัญญาเช่าที่ดินจากปริษัทเอกชนที่ช้างสิทธิในที่ดินดังกล่าวเท่านั้น ตนจึงได้ประชุมชาวบ้านทำแร่ หมู่ 4 เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง โดยที่ประชุมหมู่บ้านยืนยันเช่นเดิมว่าปัญหานี้เกิดขึ้นจากกรณีปัญหาที่บริษัทเอกชนเข้ามาบุกรุกที่ดินสาธารณประโยชน์ในลุ่มน้ำสงตราม และอ้างว่ามีเอกสารสิทธิการครอบครองที่ดินสาธารณะประโยชน์ดังกล่ว และได้ก่อปัญหาความขัดแยังกับประชาชนในชุมชนที่ลุ่มน้ำสงคราม ที่ร่วมกันการดูแลรักษาและคุ้มครองป้องกันที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดิน ที่ประชาชนใช้ประโยชน์ร่วมกันตามวัฒนธรรมประเพณีในแต่ละฤดูกาลเรื่อยมาเป็นเวลาหลายสิบปี บริษัทเอกชนตังกล่าวอ้างว่ามีหนังสือรับรองการทำประโยชน์ นส.3 ก. ซึ่งชาวป้านทำแร่ ได้ต่อสู้เรียกร้องความเป็นธรรมเรื่องการเข้ามาบุกรุกที่ดินสาธารณะประโยชน์โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณ “ทุ่งหนองแข้ตีนกุด” บ้านทำแร่ หมู่ 4 แม้ว่าบริษัทเอทชนได้อ้างว่ามีการออกเอกสารสิทธิ์แต่ประชาชนในหมู่บ้านท่าแร่ก็ยื่นยันเสมอมาว่าที่ดินตังกล่าว เป็นที่ดินสาธารณะที่ประชาชนในหมู่บ้านได้เข้าใช้ตามประเพณีตามฤดูกาล ชาวบ้านได้ต่อสู้โด้แย้งเรื่อยมาและยืนยันว่า “ทุ่งหนองแข้ตีนกุด” นั้น ประชาชนในท้องถิ่นใช้ประโยชน์ร่วมกัน “ทุ่งหนองแข้ตีนกุด” แปลงดังกล่าวได้มีการขึ้นทะเบียนเป็นที่สาชารณะประโยชน์ เมื่อปี 2493 ประเภทที่ทำเล เลี้ยงสัตว์ ระยุพื้นที่ 6,000 ไร่ ยืนยันว่าที่ดินดังกล่าวเป็นที่ดินสาธารณะ และจะรักษาที่ดินดังกล่าวให้กับประเทศชาติต่อไป
วัฒนะ แก้วก่า/สกลนคร
Discussion about this post