วันที่ 18 พ.ย. 2564 ที่วัดปากพิงตะวันตก ม.2 ต.งิ้วงาม อ.เมือง จ.พิษณุโลก ชาวบ้าน กรรมการวัดและพระสงฆ์วัดปากพิงตะวันตก ได้ดำเนินการเผาข้าวหลามเพื่อจำหน่ายให้ประชาชนทั่วไปในช่วงเทศกาลลอยกระทง ปีนี้ดำเนินการเผาและจำหน่ายระหว่างวันที่ 18-20 พ.ย. 2564 เป็นกิจกรรมที่ชาวบ้านช่วยทำอย่างต่อเนื่องสืบงานงานประเพณีลอยกระทงมา 30 กว่าปีแล้ว ชาวบ้านทุกคนที่มาช่วยงานไม่คิดค่าแรง เงินจากการจำหน่ายข้าวหลามทุกบาททุกสตางค์ส่งเข้าพัฒนาวัดทั้งหมด เฉลี่ยปีละแสนกว่าบาท
การเผาข้ามหลามของวัดปากพิงตะวันตก ปีนี้เป็นปีที่สอง ที่หันมาเผาข้าวหลามในถังน้ำมันขนาด 200 ลิตร จากเดิมที่เคยเผาแบบราว แบบโบราณที่ชาวบ้านทำมานาน เป็นการเผากลางแจ้ง ที่ใช้เวลาและแรงคนมาก โดยการเผาแบบราวกว่าจะได้ข้าวหลามแต่ละชุดใช้เวลาประมาณครึ่งวัน ส่วนข้าวหลามที่เผาในถังน้ำมัน หรือ ข้าวหลามอบถังนั้น จะใช้ระยะเวลาประมาณ 2 ชั่วโมงต่อชุด ใช้แรงงานน้อยกว่า ข้าวหลามก็สุกทั่วกว่า และใช้เวลาน้อยกว่า
และด้วยปีนี้เป็นวันแรก มีชาวบ้านจากหลายตำบลละแวกใกล้เคียง มาอุดหนุนซื้อข้าวหลามวัดปากพิงตะวันตกตั้งแต่เช้า ส่วนใหญ่เป็นขาประจำที่เคยมาซื้อรับประทาน ด้วยรสชาติข้าวหลามไทยแบบดั้งเดิม หอมมันด้วยกะทิ และมีใส่ถั่วดำแทรกภายใน อย่างไรก็ตาม ปีนี้ทางวัดไม่ได้จัดงานลอยกระทง จากสถานการณ์โควิด แต่ก็เปิดให้ประชาชนทั่วไปได้มาลอยกระทงบริเวณแพในแม่น้ำน่านหน้าวัด
นายเกษม เถื่อนทองดี อายุ 55 ปี คณะกรรมการวัดปากพิงตะวันตก กล่าวว่า ประเพณีเผาข้าวหลามของวัดปากพิงตะวันตกเป็นความร่วมมือของชาวบ้านและองค์การบริหารส่วนตำบลงิ้วงามและทางวัดที่สืบทอดกันมาช้านานกว่า 30 ปี ซึ่งจัดขึ้นก่อนวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 12 ค่ำ 2 วัน โดยปีนี้จัดตรงกับวันที่ 18-20 พ.ย.64 ซึ่งตรงกับวันลอยกระทงพอดี โดยปีนี้ได้เตรียมข้าวเหนียวที่จะมาเผาข้าวหลามทั้งหมด 30 ถัง แบ่งเผาเป็น 3 วัน คือ วันละ 10 ถัง โดยวันนี้เป็นวันแรก ซึ่งเผาแล้วได้ข้าวหลามประมาณวันละ 1,000 กระบอก และเป็นปีที่สองที่เผาในถังแกลอนกว่า 30 ลูก ข้าวหลามสุกทั่วถึง ข้าวเหนียวเนื้อนุ่ม ฟืนไม่ชื้น ได้รสชาติ หอมอร่อย ไม่ไหม้ อีกด้วย
สำหรับราคาข้าวหลามปีนี้ จำหน่ายแบบไม่ปลอกเปลือกราคา กิโลกรัมละ 100 บาท ถ้าปอกเปลือก กิโลกรัมละ 120 บาท ตลอดทั้งวัน มีชาวบ้านมาทยอยซื้อจำนวนมาก และทุกวัน จะจำหน่ายหมดพอดีกับที่เผาขาย.
Discussion about this post