ผู้สื่อข่าวรายงานถึงความคืบหน้า กรณีชาวบ้านบ้านไทยสันติสุข ม.16 ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ซึ่งอยู่ติดกับเทือกเขาพนมดงรัก แนวเขตชายแดนไทย-กัมพูชา ว่ามีช้างป่า 3 ตัว คาดว่าน่าจะเป็น พ่อ แม่ ลูกกัน เข้ามาหากินพืชไร่ของชาวบ้าน ซึ่งห่างจากหมู่บ้านประมาณแ 500 เมตร และมีชาวบ้านที่ออกกรีดยางเผชิญหน้ากับช้างป่าในระยะประชิดตกใจวิ่งหนีเอาชีวิตรอดไกลกว่า 2 กิโลเมตร และหกล้มหลายรอบจนได้รับบาดเจ็บที่ขา เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 21.30 น.ของคืนวันที่ 23 พ.ย.2546 ที่ผ่านมา
ล่าสุด-วันนี้ 25 พ.ย.64 ที่บ้านไทยนิยมพัฒนา ม.17 ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ซึ่งอยู่ห่างจากบ้านไทยสันติสุข พื้นที่ที่พบช้างครั้งแรก ประมาณ 1.5 กม. นายศักดิ์ชัย มหาภูวตานนท์ เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าตาเมียง เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยทับทัน-ห้วยสำราญ และเจ้าหน้าที่หลายนาย พร้อมด้วยชาวบ้านในพื้นที่บ้านไทยนิยมพัฒนา เข้าพื้นที่จุดที่ชาวบ้านพบช้างป่าออกหากินล่าสุดเมื่อเวลา06.00 น. น.เมื่อเช้าที่ผ่านมาขณะออกไปกรีดยางพารา บริเวณอ่างเก็บน้ำหนองงูเหลือมและพื้นที่ปลูกอ้อยและยางพาราของชาวบ้าน ซึ่งอยู่ทางทิศใต้ของหมู่บ้านห่างไปประมาณ 1 กิโลเมตรและห่างจากจากจุดเดิมที่พบที่สวนยางพาราบ้านไทยสันติสุขลึกเข้ามาด้านในอีกประมาณ 1.5 กิโลเมตร
โดยมีการวางแผนก่อนขึ้นรถยนต์เข้าไปในพื้นที่ ผ่านสวนยางพารา ป่าอ้อย ป่ามันสำปะหลัง ระยะทางประมาณ 1 กม.ก่อนลงเดินเท้าแกะลอยติดตามค้นหา เพื่อสังเกตการณ์เฝ้าระวังและดูอาการบาดเจ็บของช้าง ตามที่ชาวบ้านบอก ซึ่งจากการค้นหาไม่ช้าง พบพบเพียงร่องรอยของการกินต้นกล้วย ต้นอ้อย ที่ชาวบ้านปลูกไว้ และกองขี้ช้างที่ถ่ายทิ้งไว้ พร้อมลอยเท้าของช้างทั้ง 3 ตัวเท่านั้น โดยเจ้าหน้าที่ได้วัดขนาดลอยเท้าของช้าง พบว่ามีความยาวของอุ้งเท้า 45 เซนติเมตร และคาดว่าตัวลูกช้างน่าจะมีอายุประมาณ 2 ปี ตามที่ดูจากขนาดของขี้ช้าง ซึ่งเจ้าหน้าที่จะต้องคอยเฝ้าติดตามต่อไป จนกว่าครอบครัวช้างทั้ง 3 ตัว จะออกจากพื้นที่ไป พร้อมพูดคุยกับชาวบ้านว่าอย่าได้ทำร้ายช้าง และให้ระมัดระวังเวลาออกไปทำไร่หรือกรีดยาง หากเป็นไปได้ให้งดไปก่อนในช่วงนี้
นายศักดิ์ชัย มหาภูวตานนท์ เจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์ป่าพื้นที่ตาเมียง เขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ห้วยห้วยทับทัน-ห้วยสำราญ บอกว่า ที่ติดตามดูเห็นช้างอยู่ 3 ตัว เป็นครอบครัวพ่อแม่และลูก เข้ามากินอ้อย มันสำปหลังและ กล้วย ของชาวบ้าน มีชาวบ้านที่ออกไปกรีดยางเห็นอีกและแจ้งมายังเจ้าหน้าที่ และช้างยังอยู่ที่บริเวณอ่างเก็บน้ำหนองงูเหลือม ทางทิศใต้บ้านไทยนิยมพัฒนา ซึ่งต่อไปก็จะต้องติดตามอย่างใกล้ชิด และประชาสัมพันธ์ให้ชาวบ้านอย่าเข้าเพิ่งไปในป่าในช่วงนี้ เพราะช้างป่ามีลูกและจะห่วงลูก และอยู่ใกล้หมู่บ้าน ฝากเตือนชาวบ้านอย่าเพิ่งเข้าป่าในช่วงนี้เพราะอันตราย และออกไปกรีดยางก็ให้ระมัดระวังให้มาก ซึ่งเจ้าหน้าที่ก็จะออกติดตามอย่างใกล้ชิดเพื่อผลักดันให้เขาเข้าป่าไป จะต้องค่อยๆทำไป เพื่อไม่ให้ไปรลกวนพืชผลทางเกษตรของชาวบ้านและไม่ทำร้ายช้าง
สำหรับช้างป่าที่พบมาจากทางฝั่งบุรีรัมย์ เป็นป่าเทือกเขาพนมดงรักที่มีรอยต่อติดกันกับอุทยานแห่งชาติทับลาน อำเภอโนนดินแดง จังหวัดบุรีรัมย์ปกติจะพบอยู่หลายตัว โดยจะแบ่งเป็นกลุ่มกันออกหากิน กลุ่มละ 2-3 ตัว จะทยอยกันมาต่อเนื่อง โดยผ่านลำห้วยโอปลดรอยเชื่อมต่อเข้าในพื้นที่เขตอนุรักษ์พันธุ์สัตว์ป่าด้านอำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ซึ่งเป็นผืนป่าเทือกเขาพนมดงรักตลอดแนวชายแดน ซึ่งช่วงนี้เป็นช่วงที่เกษตรกรปลูกพืชไรจำนวนมากและอุดมสมบูรณ์ ส่วนมากจะเป็นพืชที่เป็นอาหารช้างด้วยทำให้เขาเข้ามาเก็บกินในพื้นที่ ก็คงไม่นานช้างพ่อแม่ลูกก็คงจะกลับเข้าป่าไป ที่สำคัญของให้ชาวบ้านที่พบอย่าไปทำร้ายช้างและขอให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่
ด้านนางสาวจันทร์เพ็ญ สมัย ผู้ใหญ่บ้านไทยนิยมพัฒนา หมู่ที่ 17 บอกว่า ในขณะนี้ตนได้ประกาศแจ้งเตือนเป็นระยะเช้าและเย็น เพื่อให้ชาวบ้านทราบและระมัดระวังตัวให้มากและไม่จำเป็นไม่ต้องเข้าป่าในช่วงนี้ พร้อมจักชุด ปสร.ออกตรวจตราติดตามอย่างใกล้ชิด และที่น่าเป็นห่วงมีชาวบ้านที่พบช้างบอกว่ามีช้าง 1 ใน 3 ตัว น่าจะเป็นช้างตัวผู้ตัวใหญ่มีรอยเลือดติดที่ขาและเดินกระเพลก น่าจะได้รับบาดเจ็บ อยากให้เจ้าหน้าที่ติดตามให้พบ เพื่อจะได้ตรวจและรักษาให้กับช้าง หากเกิดอักเสบหรือติดเชื้อช้างคงแย่แน่นอน.
Discussion about this post