ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดสกลนคร ตั้งอยู่ที่บ้านนานกเค้า ตำบลห้วยยาง อำเภอเมือง จังหวัดสกลนคร ประกอบด้วยพื้นที่โครงการประมาณ 2,300 ไร่เปิดบริการแบบเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว เริ่มดำเนินงานมาตั้งแต่ปี 2525 โดยมีสำนักงาน กปร. ให้การสนับสนุนงบประมาณ ติดตามการดำเนินงานมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด และเป็นไปตามพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในการสืบสาน รักษา ต่อยอด เพื่อให้ประชาชนอยู่ดีกินดี วันครบครอบ 39 ปี ศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จึงเปิดตัวไก่ดำภูพาน สายพันธุ์ที่ 4 ดำหมดถึงลิ้น
นายสัตวแพทย์ วิศุทธิ์ เอื้อกิ่งเพชร หัวหน้างานศึกษาและพัฒนาด้านปศุสัตว์ กล่าวว่า ศูนย์ศึกษาพัฒนาภูพานอัเนื่องมาจากพระราชดำริ จากการศึกษาและพัฒนาไก่ดำมานานนับ 10 ปี โดยสายพันธ์ที่ 1 สีดำ สายพันธ์ที่ 2 สีขาว สายพันธ์ที่ 3 มีสีเหลืองทอง มีเสียงร้องจากพี่น้องประชาชน อยากได้สายพันธ์ที่ 4 พอดีครบรอบ 39 ปีศูนย์ศึกษาพัฒนาภูพาน ทางงานศึกษาปศุสัตว์จึงได้เปิดตัวไก่ดำภูพาน สายพันธ์ที่ 4 ขึ้น ตัวผู้จะมีสีสันที่สวยงามพร้อมทั้งตัวเมีย เหมาะสมที่จะเอาไปเลี้ยงเพื่อดูความสวยงาม หรือเอาไว้ไปบริโภคอีกส่วนหนี่ง เพราะว่าไก่ดำภูพาน ยังคงคุณลักษณะเดิมอยู่ หนัง เนื้อ กระดูก ยังดำอยู่เหมือนเดิม แต่ต่อเติมความโดดเด่ดลงไป
“โดยนอกจากจะเป็นสีขนแล้ว ยังมีเรื่องสายพันธ์ไข่ลงไปอีกด้วย ใครที่จะเลี้ยงไก่ดำภูพาน แต่ไม่อยากเชื้อดไก่เพราะสงสารเขา แต่จะขอบริโภคไข่อย่างเดียวได้ไหม นี้ถือเป็นการตอบโจทย์ได้อย่างดีเลย ไก่ดำภูพาน 4 ออกไข่ได้ปีละประมาณ 120 ฟอง การเลี้ยงเพื่อบริโภคจะได้ประโยชย์มาก และที่สำคัญคือ ไข่ไก่ดำภูพานยังมีประโยชย์อีกมากมายเหมือนกันอีกด้วย เพราะต่างประเทศสามารถยื่นยันได้เลยว่า ไก่ดำภูพานมีกรดไขมันชนิดไม่อิ่มตัวสูงกว่าสายพัธ์ทั่วๆไป แถมไก่ดำที่เลี้ยงยังกินง่าย อยู่ง่ายอีกด้วย สามารถปล่อยให้หากินเองได้ตามสบาย เรื่องราคาก็ไม่เบา อายุ 1 เดือน ชุดละ 4 ตัว ขายในราคา 1,000 บาท” นับว่าไมเลวทีเดียว
วัฒนะ แก้วก่า/ สกลนคร
Discussion about this post