วันที่10ธค.64เจ้าแข็งแกร่งจ่าฝูงช้างป่าอ่างฤาไนยังคงปักหากินในป่าอ้อยของชาวบ้านข้างหมู่ที่ 4 ต.เขาไม้แก้ว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรีเจ้าแข็งแกร่งได้มาหากินบริเวณนี้เกือบ 10 วันแล้วซึ่งอาศัยหลบอยู่ในป่าอ้อยหนาทึบของชาวบ้านที่ปลูกอยู่ติดกับหมู่บ้านหลายร้อยไร่ เจ้าแข็งแกร่งมักจะออกมาหากินในช่วงเย็นและช่วงดึกแต่ละวัน การปรากฏตัวของเจ้าแข็งแกร่งชาวบ้านยังคงหวาดผวาเกรงว่าช้างป่าแข็งจะเข้ามาประชิดตัวบ้านและทำลายข้าวของเสียหาย ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องได้ประชุมหารือกับผู้นำหมู่บ้านหาแนวทางผลักดันช้างป่าออกจากพื้นที่โดยเร็ว ที่ผ่านมาชุดผลักดันช้างช้างป่าได้ผลักดันเจ้าแข็งแกร่งออกจากพื้นที่ทุกครั้งที่ได้รับแจ้งแต่หลบเจ้าหน้าที่ย้อนกลับมาอีก ทำให้เกิดความเสียหายทางพืชผลการเกษตรของชาวบ้านหลายราย ทางจังหวัดได้ประกาศเป็นพื้นที่ภัยพิบัติเพื่อให้การช่วยเหลือแล้ว นายไพรัตน์ สาคร ชาวบ้านเขาไม้แก้วกล่าวว่าเห็นเจ้าแข็งแกร่งเข้ามาหากินในพื้นที่หลายวันแล้ว ไล่ไปก็กลับมาอีกและยังพบฝูงช้างป่ามาหากินในพื้นที่อีก20ตัว คาดว่าน่าจะหลบซ่อนตัวอยู่ในป่าอ้อยติดกับหมู่บ้านคาดว่าจะยังไม่ไปไหน
ขั้นตอนการให้การช่วยเหลือกรณีช้างป่าทำให้เกิดความเสียหายแก่ชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แจ้ง (อบต.เทศบาล)รายงานเหตุด่วนสาธารณภัยไปยังอำเภอ ทางอำเภอรายงานด่วนสาธารณภัยไปยังสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดปราจีนบุรีขอประกาศเป็นเขตพื้นที่ประสบสาธารณภัยในเบื้องต้นก่อน เพื่อให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นพื้นที่นั้นๆ ใช้ประกอบการดำเนินการให้ความช่วยเหลือด้านดำรงชีพและทันทีตามระเบียบของกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยค่าใช้จ่ายเพื่อช่วยเหลือประชาชนตามอำนาจหน้าที่ขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น พ.ศ.
2560 และ2561
โดยไม่ต้องรอความช่วยเหลือจากจังหวัดดังนี้ บ้านได้รับความเสียหายจะได้รับความช่วยเหลือเป็นค่าวัสดุซ่อมแซมที่อยู่อาศัยหลังละไม่เกิน 49,500บาท ยุ้งข้าว โรงเรือนเก็บพืชผลทางการเกษตร คอกสัตว์ ได้รับความเสียหายจ่ายจริงครอบครัวรัก 5,700 บาท ค่าเครื่องมือประกอบอาชีพ หรือเงินทุนสำหรับผู้ประสบภัยพิบัติที่เป็นอาชีพหลักในการหาเลี้ยงครอบครัวผู้ประสบภัยพิบัติได้รับความเสียหายครอบครัวละ 11,000 บาท ค่าช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ กรณีบาดเจ็บสาหัสต้องรักษาในสถานพยาบาลตั้งแต่ 3 วันขึ้นไปให้จ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้นเป็นเงิน 4,000 บาท เจ็บจนพิการไม่สามารถประกอบอาชีพตามปกติได้ให้ช่วยเหลือเบื้องต้นเป็นเงิน 13,000 บาท ค่าจัดการศพผู้เสียชีวิตรายละไม่เกิน
2,9700บาท
ทั้งนี้ให้ อบต/เทศบาล ดำเนินการตามระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยค่าใช้จ่ายเพื่อช่วยเหลือประชาชนตามอำนาจหน้าที่ขององค์กรส่วนปกครองส่วนท้องถิ่น(ฉบับที่2)พ.ศ.2561
ช่วยเหลือราษฎรตามหลักเกณฑ์ในการจ่ายเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยตามกระทรวงการคลังกำหนดไว้ หากเกิดความเสียหายด้านพืชจำนวน2รายขึ้นไปที่เข้าข่ายเป็นสาธารณภัย ให้อำเภอรายงานเหตุด่วนสาธารณภัย เพื่อประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยกรณีฉุกเฉิน เพื่อใช้เงินในอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัด กรณีให้ความช่วยเหลือด้านพืช โดยขอรับการสนับสนุนเงินในอำนาจของผู้ว่าราชการจังหวัด(ด้านการเกษตร)
อำเภอจะต้องจัดประชุมคณะกรรมการช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติระดับอำเภอ
(ก.ช.ภจ.)เพื่อนำเข้าที่ประชุมฯเสนอต่อคณะกรรมการช่วยเหลือผู้ประสบภัยระดับจังหวัด(ก.ช.ภ.จ)เพื่อพิจารณาช่วยเหลือผู้ประสบภัยต่อไป หลักเกณฑ์ในการการช่วยเหลือมีดังนี้
เกษตรกรจะต้องขึ้นทะเบียนเกษตรกร กับหน่วยงานที่กำกับดูแลเกษตรกรแต่ละด้านของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เช่น ด้านพืชจะต้องขึ้นทะเบียนเกษตรกับสำนักงานเกษตรอำเภอ ด้านประมงขึ้นทะเบียนกับสำนักงานประมงอำเภอ ด้านปศุสัตว์ขึ้นทะเบียนกับสำนักงานปศุสัตว์อำเภอ ในพื้นที่นั้นๆและเกษตรกรจะต้องขึ้นทะเบียนก่อนเกิดภัยพิบัติแล้วเท่านั้น พืชผลทางการเกษตรจะต้องได้รับความเสียหายโดยสิ้นเชิง ไม่สามารถเก็บเกี่ยวผลผลิตได้ การให้ช่วยเหลือตามจำนวนพื้นที่เพื่อปลูกที่เสียหายจริง ไม่เกินรายละ 30 ไร่ทอัตราให้ความช่วยเหลือ ตามหลักเกณฑ์วิธีปฏิบัติปลีกย่อยเกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือด้านเกษตรผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน
พ.ศ.2556 ข้าว ไร่ละ1,113บาท พืชไร่ ไร่ละ 1,148บาท พืชสวนอื่นๆ ไร่ละ 1,690บาท
Discussion about this post