ผู้สื่อข่าว จ.สุราษฎร์ธานี รายงานว่า ณ ศาลาเอนกประสงค์วัดท่าทองใหม่ บริษัทที่ปรึกษาฯ เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน ครั้งที่ 1 ต่อขอบเขตการศึกษาและแนวทางการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการท่าเทียบเรือกลุ่มจังหวัดสุราษฎร์ธานี ประกอบด้วย 5 ท่าเรือ ดังนี้ 1.บริษัท สันทัดและบุตร จำกัด 2. บริษัท พี.ซี.ปิโตรเลี่ยมแอนด์เทอร์มินอล จำกัด 3.บริษัท สยามนาวี จำกัด 4. บริษัท พี.เค. มารีน เทรดดิ้งจำกัด และ 5. บริษัท พี.ซี. สยามปิโตรเลียม จำกัด โดยพื้นที่ศึกษารัศมี 5 กิโลเมตรจากพื้นที่ตั้งท่าเทียบเรือ ครอบคลุมพื้นที่บางส่วนใน 2 อำเภอ ของจังหวัดสุราษฎร์ธานี ได้แก่ อำเภอเมืองสุราษฎร์ธานี และอำเภอกาญจนดิษฐ์ โดยการประชุมครั้งที่ 1 นี้มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ข้อมูลกับประชาชนผู้มีส่วนเสียและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รับทราบรายละเอียดโครงการที่เปิดดำเนินการมาแล้วและรับทราบผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นทั้งทางตรงและทางอ้อม รวมทั้งขอบเขตการศึกษา อีกทั้งยังเป็นการเปิดรับฟังข้อคิดเห็นและข้อเสนอแนะจากประชาชนผู้มีส่วนได้เสียที่มีต่อโครงการ
นายสุทธิพงศ์ คล้ายอุดม รองผู้ว่าราชการจังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นประธานในการประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนครั้งที่ 1 ต่อขอบเขตการศึกษาและแนวทางการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม ( EIA) กล่าวว่า โครงการท่าเทียบเรือที่ทางบริษัทที่ปรึกษาเข้ามาดำเนินการรับความคิดเห็นจากประชาชน ซึ่งเป็นท่าเทียบเรือเก่าที่เปิดให้บริการอยู่แล้วแต่จะใช้เรือที่มีขนาดเกินกว่า 500 ตันกรอส ที่จะใช้เป็นท่าเทียบเรือขนส่งสินค้าทั้งในและต่างประเทศให้มีมาตรฐานมากยิ่งขึ้น สามารถรองรับสินค้าได้มากขึ้น ตลอดจนก่อให้การการสร้างงานในพื้นที่เพื่อส่งเสริมเศรษฐกิจครอบครัวฐานราก ส่งเสริมและสนับสนุนเศรษฐกิจเพื่อให้เกิดเศรษฐกิจหมุนเวียนในพื้นที่ในระดับจุลภาคและระดับมหาภาคในอนาคต ซึ่งแต่ละบริษัทแต่ละปีได้มีการขนถ่ายสินค้าทั้งในและต่างประเทศเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะการขนถ่ายน้ำมันปาล์ม ขนถ่ายแร่ยิบซั่ม ผลิตภัณฑ์ยางพารา และสินค้าอื่นๆอีกจำนวนมาก ซึ่งหากดำเนินการแล้วเสร็จภายใน 2 ปี จะทำให้สุราษฎร์ธานีเป็นศูนย์กลางกระจายสินค้าทางเรืออีกจังหวัดหนึ่งของภาคใต้
ทางด้านนายธีรวีร์ ปาธิปา ผู้ชำนาญการสิ่งแวดล้อม บริษัท สิ่งแวดล้อมสยาม จำกัด จากการนำเสนอข้อมูลท่าเทียบเรือและขอบเขตแนวทางการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม พร้อมทั้งเปิดโอกาสให้มีการแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น ข้อเสนอแนะจากผู้มีส่วนได้เสีย สำหรับนำมาปรับปรุงรายงานต่อไป ดำเนินรายการโดย ดร.นฤพล ศรีตระกูล ผู้อำนวยการฝ่ายเศรษฐกิจสังคมและการมีส่วนร่วมของประชาชน บริษัท สิ่งแวดล้อมสยาม จำกัด นั้น ความคิดเห็นของทุกคนที่นำเสนอ ทางบริษัทจะนำไปเสนอและหาแนวทางแก้ไขตามกำหนดระยะเวลา ที่กำหนดและทำการประชาสัมพันธ์ให้ผู้มีส่วนได้เสียได้รับรู้ ก่อนจะมีการเปิดรับฟังความคิดเห็นครั้งที่ 2 อีกครั้งหนึ่ง ซึ่งถือว่าเป็นประโยชน์เป็นอย่างมาก เราต้องการให้ทุกฝ่ายอยู่กันได้อย่างมีความสุข และถูกต้องเป็นไปตามกระบวนการที่กำหนดทุกประการ
ทั้งนี้ ทางกรมเจ้าท่าได้ออก ”ระเบียบกรมเจ้าท่า ว่าด้วยการขอเปลี่ยนวัตถุประสงค์หรือประเภทการใช้ท่าเทียบเรือ ขนาดไม่เกิน 500 ตันกรอสได้ พ.ศ.2563” โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ประเภทการใช้ท่าเทียบเรือที่ต้องการเปลี่ยนแปลงวัตถุประสงค์หรือประเภทการใช้ท่าเทียบเรือได้รับอนุญาตแล้วและไม่มีการก่อสร้างเพิ่มเติมจากใบอนุญาตเดิมได้ดำเนินการศึกษาและจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ซึ่งจากที่กล่าวมาข้างต้นได้สอดคล้องกับ “ประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรม ชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่องกำหนดประเภทโครงการ กิจการ หรือการดำเนินกิจการซึ่งต้องจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม และหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการจำทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2562 ” ซึ่งกำหนดให้โครงการประเภทท่าเทียบเรือที่รองรับเรือขนาดตั้งแต่ 500 ตันกรอสขึ้นไปต้องจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) จากเหตุผลข้างต้น ส่งผลให้ท่าเทียบเรือหลายแห่งในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ที่เปิดดำเนินการมาแล้ว จำเป็นต้องเข้าสู่กระบวนการดังกล่าว จึงได้หมายให้บริษัท สิ่งแวดล้อมสยาม จำกัด ดำเนินการศึกษาและจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (EIA) ซึ่งเป็นที่มาของการปะชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนและผู้มีส่วนได้เสียอีกด้วย.
Discussion about this post