โฆษก กอ.รมน.ภาค 4 สน. แจงเหตุวิสามัญ 2 ราย ในพื้นที่ จ.ปัตตานี จนท.ปฏิบัติตามขั้นตอนจากเบาไปหาหนัก ทำตามกฏหมาย

วันนี้ 25 ธ.ค.64 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ ศูนย์ประชาสัมพันธ์ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ต.เขาตูม อ.ยะรัง จ.ปัตตานี พ.อ.เกียรติศักดิ์ ณีวงษ์ โฆษก กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า แถลงชี้แจง กรณีผู้ก่อความไม่สงบยิงต่อสู้กับเจ้าหน้าที่ 3 ฝ่าย ในพื้นที่บ้านเขาดิน หมู่ที่ 3 ต.ปากู อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี เมื่อช่วงเย็นของวันที่ 24 ธ.ค.64 ที่ผ่านมา เป็นเหตุทำให้มีผู้ก่อความไม่สงบเสียชีวิต จำนวน 2 ราย

พ.อ.เกียรติศักดิ์ ณีวงษ์ โฆษก กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า กล่าวว่า เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 24 ธ.ค.64 ที่ผ่านมา หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 44 ได้สนธิกำลังร่วม 3 ฝ่าย เข้าบังคับใช้กฎหมายติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุรุนแรงที่เข้ามาหลบซ่อนอยู่ในบ้านเลขที่ 55 บ้านเขาดิน หมู่ที่ 3 ต.ปากู อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี เพื่อเตรียมการก่อเหตุ ทั้งนี้ในขั้นตอนการปฏิบัติเจ้าหน้าที่ได้ใช้ความพยายามในการเกลี้ยกล่อม เพื่อให้กลุ่มคนร้าย ออกมามอบตัว โดยเชิญผู้นำศาสนา ผู้นำท้องถิ่น เข้าร่วมเจรา นานกว่า 3 ชั่วโมง แต่ไม่เป็นผล คนร้ายกลับวิ่งออกมาจากบ้านฝ่าวงล้อมเจ้าหน้าที่ และใช้อาวุธปืนยิงเข้าใส่เป็นระยะ เจ้าหน้าที่จึงจำเป็นต้องยิงตอบโต้ เป็นผลให้คนร้ายเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ จำนวน 2 ราย ประกอบด้วย

นายอาดีนันท์ ซือรี หรือ ปะจู
อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 186/1 บ้านมาหนอ หมู่ที่ 2 ต./อ.มายอ จ.ปัตตานี เป็นผู้ก่อความไม่สงบระดับปฏิบัติการ มีหมาย พรก. จำนวน 1 หมาย กรณีร่วมก่อเหตุทำลายกล้องวงจรปิด ในพื้นที่ ต.ตะโละแมะนา อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2564 ที่ผ่านมา 2.นายซาการียา ยูโซะ หรือ อาดัม อายุ 29 ปี บ้านเลขที่ 109/2 บ้านบาโลย หมู่ที่ 3 ต.บาโลย อ.ยะหริ่ง จ.ปัตตานี เป็นผู้ก่อความไม่สงบ ระดับปฏิบัติการ มีหมาย พรก. จำนวน 1 หมาย กรณีร่วมก่อเหตุทำลายกล้องวงจรปิด ในพื้นที่ ต.ตะโละแมะนา อ.ทุ่งยางแดง จ.ปัตตานี เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน 2564 ที่ผ่านมา

นอกจากนี้ทางเจ้าหน้าที่ยังได้ตรวจยึดอาวุธปืนพกสั้นขนาด .38 และ 9 มม. ของคนร้าย จำนวน 2 กระบอก ซึ่งจะได้นำไปตรวจพิสูจน์หาที่มาและประวัติในการก่อเหตุต่อไป โดยในการปฏิบัติ พล.ท.เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 / ผอ.รมน.ภาค 4 ได้กำชับให้หน่วยดำเนินการตามลำดับใช้การเจรจาเป็นหลัก ในทุกขั้นตอนให้ปฏิบัติตามหลักกฎหมายและหลักสิทธิมนุษยชนอย่างเคร่งครัด แต่กลุ่มคนร้าย กลับใช้อาวุธยิงใส่เจ้าหน้าที่ก่อน จึงจำเป็นต้องตอบโต้ เป็นผลทำให้คนร้ายเสียชีวิตดังกล่าว ทั้งนี้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า จึงขอความร่วมมือมายังพี่น้องประชาชนในพื้นที่หากพบเห็นสิ่งผิดปกติหรือบุคคลต้องสงสัยเข้ามาเคลื่อนไหวก็สามารถแจ้งได้ที่เจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ หรือสามารถแจ้งได้ที่หมายเลขโทรศัพท์สายตรงแม่ทัพภาคที่ 4 โทร 061 – 173 – 2999 และเบอร์สายด่วน 1341 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง และขอความร่วมมือกับพี่น้องประชาชน อย่าได้ให้การสนับสนุนหรือช่วยเหลือผู้กระทำผิดทั้งการให้ที่พักพิง เก็บซ่อนอาวุธ หรือ จัดหาเสบียง เพราะจะมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 189 มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ.