วันนี้ 4 ม.ค.65 เป็นวันครบรอบ 18 ปี ของเหตุการณ์ปล้นปืนครั้งมโหฬารถึง 413 กระบอก จากกองพันพัฒนาที่ 4 ค่ายกรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ หรือ “ค่ายปิเหล็ง” บ้านปิเหล็งใต้ ต.มะรือโบออก อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4ม.ค.47 และนับจากวันนั้นจนถึงวันนี้สถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ก็ไม่เหมือนเดิม ล่าสุด กลุ่มคนร้ายในพื้นที่แบ่งกลุ่มก่อเหตุสร้างความปั่นป่วนลอบยิง วางระเบิดเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง และ ระเบิดเสาไฟฟ้า – เสาโทรศัพท์ต้อนรับปีใหม่ 2565 จนเกิดการสูญเสียกับเจ้าหน้าที่รัฐ ประชาชน ทรัพย์สินตามมา
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวจังหวัดยะลา ได้สัมภาษณ์ ดร.ตายูดิน อุสมาน อาจารย์คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา มองในเรื่องดังกล่าวว่า สำหรับวันนี้ เป็นวันที่ 4มกราคม 2547 คือวันเริ่มต้นของการเกิดสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จนเกิดการเรียกร้อง การแสดงพลังออกมาในครั้งนี้ถือว่าเป็นการต่อสู้ในเชิงของสัญลักษณ์ ต้องการสื่อให้เห็นว่าขบวนการที่เคลื่อนไหวยังอยู่ ซึ่งในขบวนการเองยังมีฝ่ายที่ไม่ลงรอยกันระหว่างซึ่งกันและกัน บางทีบางฝ่ายคนที่อยู่ในขบวนการที่ต้องการเจรจาสันติภาพก็มีและไม่เห็นด้วยกับการเจรจาก็มี เพราะฉะนั้นการสร้างสถานการณ์ก่อนปีใหม่ 2564 และหลังปีใหม่ 2565 ถือว่าเป็นการสร้างสถานการณ์ในรูปแบบของเชิงสัญลักษณ์เพื่อให้โลกได้รับรู้ เพื่อให้คนในพื้นที่รู้ว่าขบวนการแบ่งแยกดินแดนยังมีอยู่ ถ้ามองในเรื่องสถานการณ์ความไม่สงบในช่วงนี้ จำนวนน้อยลงกับปีที่ผ่านมา ที่เปลี่ยนแปลงคือความสูญเสียคนได้รับผลกระทบจะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐมากกว่า ตนเองมองว่าวิธีแก้ปัญหาที่มีความชัดเจน หลักสากลก็คือต้องมีการพูดคุยเจรจาสันติภาพ แต่ต้องอาศัยการสนับสนุนจากหลายฝ่ายไม่ใช่แค่เจ้าหน้าที่ด้านเดียว
เท่านั้น แม้ว่าจะเป็นนักการเมือง สส. สว. นักธุรกิจต่างๆ และคนที่เกี่ยวข้อง ข้าราชการต้องมาหนุนเสริม เพื่อให้การพูดเจรจาสันติภาพสามารถเดินหน้าต่อไปได้ ทางด้านภาคประชาสังคมพี่น้องต้องมีข้อเสนอมายังเจ้าหน้าที่ของรัฐ เพื่อเอาข้อเสนอต่างไปสู่เวทีของการเจรจาสันติภาพบนโต๊ะต่อไป อยากจะรู้ว่าประชาชนต้องการอะไร ? ชาวบ้านต้องการอะไร ? คนที่อยู่ในพื้นที่จริงๆต้องการอะไร ? เอาข้อเสนอนี้ไปเสนอต่อคนที่เห็นต่างต่อไป
Discussion about this post