วันที่ 6 ม.ค.65 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากข้อมูลการคาดการณ์สถานการณ์ปริมาณน้ำต้นทุนในเขตและนอกเขตชลประทาน มีปริมาณน้ำที่ค่อนข้างน้อย ทำให้ในหลายพื้นที่จำเป็นที่จะต้องงดการจัดสรรน้ำในการเพาะปลูกข้าวในรอบที่ 2 ในช่วงฤดูแล้ง ซึ่งเกษตรกรอาจจะได้รับผลกระทบจากประมาณน้ำที่ไม่เพียงพอ จึงจำเป็นที่จะต้องปรับเปลี่ยนในเรื่องของการเพาะปลูกพืช โดยการงดการทำนาแล้วหันมาปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อยและเป็นที่ต้องการของตลาด ซึ่งจะช่วยสร้างอาชีพและรายได้ให้กับเกษตรกรในช่วงฤดูแล้งได้เป็นอย่างดี ซึ่งสถานการณ์น้ำแม่น้ำโขง จังหวัดนครพนม ระดับน้ำปัจจุบันอยู่ที่ 133.79 (ม.รทก.) ความลึก 10.55 เมตร ปริมาณน้ำปัจจุบัน 2,200 คิดเป็น 8 % (ข้อมูล : สำนักวิจัย พัฒนาและอุทกวิทยา กรมทรัพยากรน้ำ ณ วันที่ 6 ม.ค.2565)
นางสาวกัญณฐา อภินนท์ธนา เกษตรจังหวัดนครพนม เปิดเผยว่า ที่ผ่านมาสำนักงานเกษตรจังหวัดนครพนม ได้ประสานไปยังสำนักงานเกษตรอำเภอทั้ง 12 อำเภอ ในการประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรในพื้นที่ได้ทราบถึงข้อมูลสถานการณ์น้ำในพื้นที่และการงดทำนาในรอบที่ 2 มาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ภัยแล้งที่อาจจะเกิดขึ้นจากปริมาณน้ำที่น้อยและอาจจะส่งผลกระทบกับเกษตรกรที่เพาะปลูกพืช จึงได้เชิญชวนและส่งเสริมให้เกษตรกรหันมาปลูกพืชใช้น้ำน้อยที่ตลาดมีความต้องการ เพื่อเป็นการสร้างอาชีพและรายได้ในช่วงฤดูแล้งให้กับเกษตรกรเพิ่มขึ้น โดยในปี 65 ได้มีการสนับสนุนให้เกษตรกรหันมาปลุกพืชใช้น้ำน้อย ผ่านโครงการของรัฐต่างๆ เช่น โครงการส่งเสริมการปลูกพืชหลากหลาย (หลังนา) ปี 2565 โครงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตข้าวโพดเลี้ยงสัตว์หลังฤดูทำนา ปี 2565 เพื่อที่จะเป็นทางเลือกให้กับเกษตรกรในการที่จะปลูกพืชอื่นทดแทนการทำนาในรอบที่ 2 “เตรียมแปลงดี มีชัยไปกว่าครึ่ง ลดต้นทุนได้” แนะนำให้เกษตรกรที่สนใจที่ปลูกพืชน้ำน้อยเตรียมดิน โดยใช้วิธีการไถดะและไถพรวน (2-3 ครั้ง) เตรียมแปลงโดยการยกแปลงผสมปุ๋ยรองพื้นและปุ๋ยคอก รดน้ำให้ชุ่ม ยกระบบแปลงให้พอเหมาะ ย่อยดินก้อนให้มีขนาดเล็กลงหรือนำออกจากแปลง เพื่อป้องกันการกักเก็บลมร้อน หากเตรียมดินดี การคลุมแปลงจะสามารถอยู่ได้นานต่อเนื่องอย่างน้อย 3 ฤดูกาลปลูก ใช้ปุ๋ยอินทรีย์ หรือปุ๋ยหมักในการปรับปรุงบำรุงดินให้มีความเหมาะสมในการปลุกพืช แล้วคลุมแปลงด้วยหญ้าหรือฟางข้าวและรดน้ำให้พอมีความชื้น ก่อนเจาะหลุมปลูกต้นกล้า วิธีนี้จะช่วยให้ดินมีความเย็นในฤดูร้อน รักษาความชื้นในดิน ป้องกันความเสียหายที่เกิดจากฝน ลดการสูญเสียปุ๋ย ลดวัชพืช ปรับปรุงโครงสร้างดิน ลดการอัดแน่นของดิน ช่วยเพิ่มการเจริญเติบโตของพืช ทำให้ผลผลิตไม่สัมผัสกับพื้นดิน ปัญหาที่อาจพบได้คือ ในที่ที่มีความชื้นสูง หากฟางใกล้โคนต้นมากไป อาจทำให้เกิดโรคเน่าได้ อาจเป็นที่สนใจของสัตว์ศัตรูพืช เช่น หมู และไก่ เสี่ยงต่อการเกิดโรคและนำแมลงพาหะมาสู่แปลงปลูกพืชได้
7 พืชน้ำน้อย ทางเลือกใหม่ สู้ภัยแล้ง ส่งเสริมให้เกษตรกรหันมาปลูกพืชน้ำน้อย จำนวน 7 ชนิดได้แก่ ข้าวโพดข้าวเหนียว อัตราการใช้น้ำ 438 ลูกบาศก์เมตร ต่อไร่ อายุพืช 64-68 วัน ฟักทอง อัตราการใช้น้ำ 616 ลูกบาศก์เมตร ต่อไร่ อายุพืช 75-90 วัน ถั่วฝักยาว อัตราการใช้น้ำ 458 ลูกบาศก์เมตร ต่อไร่ อายุพืช 55-60 วัน แฟง อัตราการใช้น้ำ 551 ลูกบาศก์เมตร ต่อไร่ อายุพืช 60-65 วัน แตงกวา อัตราการใช้น้ำ 660 ลูกบาศก์เมตร ต่อไร่ อายุพืช 30-32 วัน ผักบุ้ง อัตราการใช้น้ำ 300 ลูกบาศก์เมตร ต่อไร่ อายุพืช 21 วัน พริกขี้หนู อัตราการใช้น้ำ 758 ลูกบาศก์เมตร ต่อไร่ อายุพืช 150 วัน
สำหรับการจำหน่ายผลผลิต เกษตรกรจะต้องวางแผนและศึกษาข้อมูลด้านการตลาดในพื้นที่ก่อนทำการเพาะปลูก เพื่อป้องกันปริมาณผลผลิตที่ได้ราคาต่ำ และทางสำนักงานเกษตรจังหวัดนครพนม พร้อมส่งเสริมและสนับสนุนให้เกษตรกรนำผลผลิตที่ได้ไปจำหน่ายในรูปแบบตลาดออนไลน์ที่มีการเปิดช่องทางของ เพจเฟซบุ๊ค “สินค้าเกษตรออนไลน์ จังหวัดนครพนม” ที่จะเป็นช่องทางในการประชาสัมพันธ์สินค้าเกษตรให้กับเกษตรกรและผู้บริโภคได้มาพบกัน และสามารถจำหน่ายผลผลิตจากผู้ผลิตและผู้บริโภคได้โดยตรง ทำให้สะดวก รวดเร็ว และสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรได้ สิ่งสำคัญเกษตรกรจะต้องเน้นการผลิตที่ปลอดภัยและยึดหลักของปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาปรับใช้ในการทำการเกษตร ซึ่งจะทำให้เกษตรกรมีรายได้และมีคุณภาพชีวิตที่ดีเพิ่มขึ้นได้อย่างมั่นคง
Discussion about this post