ผบ.กองกำลังผาเมืองลงพื้นที่ ปะทะแก๊งลำเลียงยาเสพติด

วันที่ 12 ม.ค.65 พลตรีนฤทธิ์ ถาวรวงษ์ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมืองผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดกองกำลังผาเมือง พันเอก สุทธิ์เขตต์ ศรีนิลทิน ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 3 กองกำลังผาเมือง หน่วยเรือรักษาความสงบตามลำแม่น้ำโขง (นรข.) เขตเชียงราย สภ.เชียงแสน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ร่วมกันแถลงข่าวการปะทะกันระหว่างกำลังทหาร หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารม้าที่ 3 กองกำลังผาเมืองกับกลุ่มผู้ค้ายาเสพติด พื้นที่ชายแดนไทย-สปป.ลาว-เมียนมา ด้านสามเหลี่ยมทองคำ บ้านสบรวก หมู่ 1 ต.เวียง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย หลังจากช่วงกลางดึกที่ผ่านมา

โดยเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นตั้งแต่ 23.00 น.วันที่ 11 ม.ค.หลังจาก บก.คปส.3 กองกำลังผาเมือง ร่วมกับทหารร้อย ม.4 ฉก.ม.3 กองกำลังผาเมือง ได้ปฏิบัติหน้าที่ลาดตระเวนตามแนวชายแดนไทยบริเวณริมลำน้ำรวกซึ่งเป็นเส้นเขตแดนติดต่อกับ จ.ท่าขี้เหล็ก ประเทศเมียนมา เมื่อไปถึงช่องทางอนันตราฯ พื้นที่หมู่บ้านสบรวก ได้พบกลุ่มคนต้องสงสัยหลายคนพากันเดินลุยน้ำแบกสัมภาระจำนวนมากข้ามแม่น้ำมาจากฝั่งประเทศเมียนมาและขึ้นสู่ฝั่งไทย เจ้าหน้าที่จึงให้สัญญานเพื่อจะเข้าไปตรวจค้นแต่ปรากฎว่ากลุ่มคนดังกล่าวกลับพใช้อาวุธปืนยิงใส่เจ้าหน้าที่ทำให้เกิดการต่อสู้กันขึ้น

เมื่อสิ้นเสียงปืนพบว่าเจ้าหน้าที่ทุกนายปลอดภัยจึงเข้าไปตรวจสอบพื้นที่เบื้องต้นพบของกลางเป็นกระสอบฟางบรรจุยาเสพติดตกอยู่จำนวนมาก ภายในมียาบ้ารวมกันจำนวน 1,200,000 เม็ด ไอซ์ในถุงใบชาจำนวน 2 ห่อ น้ำหนักรวมกันประมาณ 2 กิโลกรัม เคตามีน บรรจุในลักษณะเดียวกันจำนวน 80 ห่อ น้ำหนักรวมกันประมาณ 80 กิโลกรัม นอกจากนี้พบอาวุธปืนที่คนร้ายทิ้งเอาไว้ช่วงหลบหนีเป็นปืนเล็กยาวเอ็ม 16 ชนิดดัดแปลงจำนวน 1 กระบอก ปืนลูกซองยาวอีก 1 กระบอก เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจยึดไว้เป็นของกลาง

พลตรีนฤทธิ์ ถาวรวงษ์ ผู้บัญชาการกองกำลังผาเมืองผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดกองกำลังผาเมือง กล่าวว่ากองกำลังผาเมืองได้สั่งการให้หน่วยในความรับผิดชอบของกองกำลังผาเมืองทำการเปิดยุทธการในการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่และจังหวัดเชียงรายโดยในห้วงที่ผ่านมาได้ปรากฏข่าวสารว่าจะมีการลักลอบลําเลียงยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้านเข้ามายังประเทศไทยในพื้นที่อำเภอเชียงแสนจังหวัดเชียงรายเพื่อลำเลียงไปยังพื้นที่ตอนในของประเทศ ได้สั่งการให้กำลังเจ้าหน้าที่เดิมที่ปฏิบัติงานทำการลาดตระเวนจนสามารถ สกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดดังกล่าว