น.อ.เพชรัตน เทียนจันทร์ ผบ.นก. สอค. ศรชล.ภาค 3 ได้รับการประสานข้อมูลเรื่องการลักลอบขนแรงงานเมียนมาทางทะเลจากตำรวจตระเวนชายแดนที่ 415 มอบหมายให้ น.อ.ณัฏฐ์ จรัลกุล เสธ.นก.สอค. ศรชล.ภาค 3 จัดกำลังพลลาดตระเวนทางน้ำ นก.สอค.ศรชล.ภาค 3 พร้อมชุดปฏิบัติการข่าวบูรณาการร่วมกับ ศปชล.ทม.และชุดปฏิบัติติการ ตชด.บ้านสามแหลม ลงเรือ ต.995 ออกทำการตรวจสอบระหว่างน่านไทยกับน่านน้ำเมียนมาในพื้นที่แนวชายแดน อ.เมืองระนอง โดยใชเรด้าห์ในการกวาดหาเรือต้องสงสัยตามที่สายข่าวรายงานมา
เจ้าหน้าที่พบเรือต้องสงสังจำนวน 2 ลำ เป็นเรือขนาดเล็ก แต่มีคนจำนวนมากอยู่ในเรือโดยลำแรกวิ่งจากน่านจังหวัดเกาะสองประเทศเมียนมาเข้ามายังฝั่งไทย ส่วนอีกลำอยู่ห่างออกไปประมาณ 1 ไมลืทะเลยังอยู่ในแนวรอยต่อน่านน้ำไทยเมียนมา เจ้าหน้าที่จึงได้เข้าตรวจสอบเรือลำแรกเป้นเรือหางยาวขนาดเล็ก ซึ่งเมื่อคนขับเรือเห็นว่าเป็นเรือเจ้าหน้าที่ทางการไทยเรือลำดังกล่าวพยายามจะหลบหนี แต่ไม่สามารถหลบหนีได้ เจ้าหน้าที่สั่งให้หยุดเรือพร้อมทำการตรวจสอบ ส่วนเรือเรืออีกลำเมื่อเห็นเจ้าทางหน้าที่ทางการไทยได้ขับเรือกลับเข้าไปในเขตน่านน้ำประเทสเมียนมา
จากการตรวจสอบพบชาวเมียนมาทั้งผู้หญิงและผู้ชายรวม 17 คน พร้อมสัมภาระเสื้อผ้า สอบถามคนขับเรือให้การว่าได้รับการว่าจ้างจากนายทุนชาวเมียนมาที่จังหวัดเกาะสองให้ขับเรือบรรทุกชาวเมียนมามาส่งยังฝั่งไทย เมื่อมาถึงจุดที่นัดหมายซึ่งเป็นช่องทางธรรมชาติจะมีชาวเมียนมาที่อยู่ฝั่งไทยโทรมาอีกครั้งว่าจะมีรถยนต์ของคนไทยมารับต่อช่วง จากนั้นได้ให้ชาวเมียนมาทั้งหมดขึ้นมาอยู่บนเรือ ต.995 ส่วนเรือหางยาวเจ้าหน้าที่ได้ทำการลากจูงเข้ามาด้วยเพื่อทำการสืบสวน
เมื่อมาถึงฝั่งเจ้าหน้าที่ได้ทำการสอบถามในเบื้องต้นกับหญิงชาวเมียนมาที่พูดภาษาไทยได้ ทราบว่าปกติทำงานอยู่เมืองไทย ที่ อ.หลังสวน จ.ชุมพร กับสามี มีหนังสือทำงานถูกต้อง ซึ่งก่อนที่ประเทสไทยและประเทศเมียนมาจะมีการปิดด่าน ได้เดินทางกลับประเทสเพื่อไปรับลูกชายเพื่อไปทำงานที่อำเภอหลังสวน แต่พอด่านปิดจึงกลับมาไม่ได้ แต่ครั้งนี้ทนรอไม่ไหวเพราะต้องการไปช่วยสามีทำงานจึงยอมเสียเงินจำนวนหนึ่งเพื่อลักลอบกลับเข้ามาในประเทศไทย เพราะได้รับคำแนะนำว่าหากยังมีเอกสารการทำงานแม้หมดอายุ ก็สามารถมาต่อใหม่ได้เพราะประเทสไทยกำลังเริ่มทำการต่ออายุบัตรแรงงานต่างด้าวในกรณีพิเศษ เนื่องจากมีปัญหาการแพร่ระบาดเชื้อโควิด แรงงานไม่สามารถกลับประเทสเพื่อไปลงตาประทัหนังสือเดินทางที่ประเทศตนเองได้ ซึ่งจังหวัดระนองกำลังเปิดให้ทำหนังสือดังกล่าวจึงมา แต่อีกหลาย ๆคนมาจากหลายพื้นที่ไม่รู้จักกัน เจ้าหน้าที่จึงได้นำตังชาวเมียนมาทั้งหมดไปทำการสอบสวนขยายผลหาข้อมูลเพิ่มเติมที่ ตชด.บ้านสามแหลม จากนั้นจะได้ประสานให้ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองระนองมารับเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
Discussion about this post