เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2565 เวลา 13.30 น. ที่ห้องประชุมเจ้าฟ้าอัตวรปัญโญชั้น 2 ศาลากลางจังหวัดน่าน นายวิบูรณ์ แววบัณฑิต ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน ประชุมแก้ไขปัญหาโรงงานสุรากลั่นชุมชนในพื้นที่จังหวัดน่าน ถูกสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่น่านออกคำสั่งทางการปกครองไม่อนุญาตให้ผลิตสุรา เนื่องจากสถานที่ตั้งโรงงานสุรากลั่นชุมชนตั้งอยู่ห่างจากแหล่งน้ำสาธารณะไม่เกิน 100 เมตร ทำให้ผู้ประกอบสุราชุมชนได้รับความเดือดร้อนไม่สามารถผลิตสุราได้ ซึ่งที่ผ่านมาได้มีการอุทธรณ์คำสั่งทางปกครอง ขณะนี้อยู่ระหว่างการพิจารณาของกระทรวงการคลัง และได้ร้องขอความเป็นธรรมต่อศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดน่าน และหน่วยงานภาครัฐและเอกชนอีกหลายหน่วยงาน
สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่น่าน ได้ชี้แจงข้อเท็จจริงตามขอร้องเรียนดังกล่าวกับศูนย์ดำรงธรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเพื่อให้มีการแก้ไขปัญหาแบบบูรณาการและยั่งยืน ทั้งนี้ จังหวัดได้สั่งการให้สรรพสามิตพื้นที่น่าน สำรวจจำนวนโรงงานสุรากลั่นชุมชน ที่มีปัญหาในกรณีดังกล่าว พบว่ามีโรงงานสุรากลั่นชุมชน จำนวน 17 โรงที่เข้าข่าย จะต้องถูกออกคำสั่งทางปกครองในกรณีอยู่ใกล้แหล่งน้ำสาธารณะไม่เกิน 100 เมตร ตามที่กฎกระทรวงกำหนดไว้ โดยสรุปประเด็นที่พบปัญหา 3 ประเด็น คือ ประเด็นแรกพบว่าเอกสารประกอบการพิจารณาอนุญาตให้ทำสุรา คือระวางที่ดินมีแหล่งน้ำ แต่สภาพที่แท้จริง ไม่มีแหล่งน้ำ เนื่องจากมีการฝั่งกลบเป็นถนน หรือนำไปใช้ประโยชน์อื่นๆ แล้ว ส่วนโรงงานสุราเดิมที่อนุญาตให้ผลิตสุราอยู่ห่างจากแหล่งน้ำสาธารณะเกิน 100 เมตร แต่ต่อมามีการต่อเติมอาคาร หรือมีการขุดแหล่งน้ำขึ้นมาภายหลัง และประเด็นสุดท้าย เป็นกรณีมีแหล่งน้ำสาธารณะจริง แต่มีลักษณะที่มีน้ำเป็นบางช่วง เช่นฤดูฝน หรือมีการปล่อยน้ำเพื่อการทำนาการทำการเกษตร เป็นต้น
โดยนายวิบูรณ์ แววบัณฑิต ผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน ได้ให้ที่ประชุมเสนอความคิดเห็นเพื่อหาแนวทางแก้ไขปัญหาทั้ง 3 ประเด็นร่วมกัน โดยได้ข้อสรุปว่าให้สรรพสามิตพื้นที่น่านทำหนังสือถึงองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่ดูแลพื้นที่สาธารณะในการออกหนังสือรับรองสภาพที่แท้จริงของแหล่งน้ำสาธารณะของทุกโรงงานเพื่อใช้ประกอบในการพิจารณาอนุญาต และให้ทำหนังสือหารือกรมสรรพสามิตในการบรรเทาความเดือดร้อนดังกล่าว ข้างต้นรวมถึงการแก้ไขปัญหาระยะยาว ซึ่งสภาพภูมิประเทศของจังหวัดน่าน ส่วนใหญ่เป็นภูเขา มีแหล่งน้ำสาธารณะตามธรรมชาติอยู่เป็นจำนวนมาก ซึ่งโรงงานสุราชุมชนของจังหวัดน่าน เป็นโรงงานสุราพื้นบ้านขนาดเล็ก มีกำลังการผลิตไม่มาก จึงไม่ส่งผลกระทบต่อแหล่งน้ำสาธารณะแต่ประการใด และสุดท้ายขอให้สำนักงานสรรพสามิตพื้นที่น่านชะลอการออกคำสั่งทางปกครองจนกว่าจะทราบผลการหารือ
ซึ่งผู้ประกอบการสุรากลั่นชุมชนได้รับความพอใจในแนวทางการแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยตัวแทนสภาการเกษตร และประธานกลุ่มเครือข่ายสุราพื้นบ้านได้กล่าวขอบคุณท่านผู้ว่าราชการจังหวัด สรรพสามิตพื้นที่น่าน หัวหน้าศูนย์ดำรงธรรม รวมถึงตัวแทนจากส่วนราชการอื่นๆ เช่นสำนักงานที่ดินจังหวัดน่าน เป็นต้น ทั้งนี้ เพื่อที่จะบรรเทาความเดือดร้อนของชาวบ้าน ได้มีแนวทางที่จะสนับสนุนและพัฒนากิจการสุราพื้นบ้านของจังหวัดน่านให้สามารถแข่งขันและมีความยั่งยืนในการประกอบอาชีพ โดยจะมอบหมายให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เช่น สำนักงานอุตสาหกรรม ในด้านการพัฒนาคุณภาพสุรา และคณะผู้บริหารการคลังในด้านการเข้าถึงแหล่งทุนดอกเบี้ยต่ำ เป็นต้น
Discussion about this post