วันนี้ 3 กุมภาพันธ์ 2565 จากประกาศของกรมอุตุนิยมวิทยาในช่วงวันที่ 2 – 3 ก.พ. 65 บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน และทะเลจีนใต้ ส่งผลทำให้มีลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้พัดนำความชื้นจากทะเลจีน ใต้และอ่าวไทยเข้ามาปกคลุมภาคเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง รวมทั้งกรุงเทพมหา นครและปริมณฑล และภาคตะวันออก ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นเป็นบางแห่ง โดยภาคเหนือมีอากาศเย็นถึงหนาว ส่วนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกมีอากาศเย็นในตอนเช้า ส่วนในช่วงวันที่ 4 – 6 ก.พ. 65 คลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกจะเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือ ทำให้บริเวณภาคเหนือมีพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกเป็นบางพื้นที่ ประกอบกับบริเวณความกดอากาศสูงหรือมวล อากาศเย็นอีกระลอกจากประเทศจีนจะแผ่เสริมลงมาปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ในขณะที่บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นที่แผ่ปกคลุมภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออกจะมีกำลังอ่อนลง ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวอุณหภูมิจะสูงขึ้น 1-3 องศาเซลเซียสกับมีหมอกในตอนเช้า ข้อควรระวังในช่วงวันที่ 4 – 6 ก.พ. 65 ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศ ไทยตอนบนดูแลรักษาสุขภาพเนื่อง จากสภาพอากาศที่หนาวเย็นลง และประชาชนบริเวณภาคเหนือระมัด ระวังอันตรายจากพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก และฟ้าผ่า โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง ที่จะเกิดขึ้นในระยะนี้ และชาวเกษตกร ควรเตรียมการป้องกันและระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทยควรเพิ่มความระมัดระวังในการเดินเรือในช่วงที่มีฝนฟ้าคะนอง
ที่จังหวัดสุรินทร์ ได้เกิดฝนและลมกรรโชกแรงในพื้นที่ตัวเมืองสุรินทร์และพื้นที่ตำบลสลักได อย่างหนัก เมื่อช่วงค่ำวานนี้ โดยลักษณะลมเป็นลมหมุนพร้อมกับฝนตกลงมาอย่างแรง ประมาณ 5 นาที ทำให้บ้านเรือนของชาวและโรงเรือนเลี้ยงสัตว์ ยุ้งข้าว ต้นไม้หัก ที่บ้านตะบัน คุ้มหนองไซร์ หมู่ 7 และหมู่8 ตำบลสลักได อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์ แรงลมหมุนได้พัดหลังคาบ้าน ยุ้งฉางที่เก็บข้าวเปลือก และหลังคาโรงเรือนเลี้ยงสัตว์เกือบทั้งหลังปลิวไปไกลตกตามทุ่งนากว่า 200 เมตร โดยเฉพาะบ้านของ ร.ต.อ.ชัยชนะ แสนกล้า อายุ 64 ปี ข้าราชการบำนาญ(ตำรวจทาง หลวง)เป็นบ้าน 2 ชั้น แรงลมพัดสังกะสีหลังคาบ้าน หลุดไปเกือบทั้งหลัง ข้าวของในบ้านถูกน้ำฝนเปียกไปทั้งหมด
ร.ต.อ. ชัยชนะ เล่าว่า ได้เกิดลมแรงในลักษณะลมหมุนพัดมาอย่างแรงพร้อมกับฝน ประมาณ 5 นาทีเท่านั้น ก็ได้พัดเอาสังกระสีหลังคาบ้านหลุดไปเกือบทั้งหมด ปลิวไปตกในทุ่งนาห่างจากบ้านประมาณ 200 เมตร ข้าวของในบ้านถูกฝนที่เทลงมาเปียกทั้งหมด เกิดขึ้นเร็วมาก ตอนเกิดเหตุตนได้หลบอยู่ใต้ถุนบ้านชั้นล่าง โชคดีที่ไม่เป็นอะไร
พายุฝนที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ นับเป็นฝนแรกของปี ซึ่งในพื้นที่ตำบลสลักได บ้านเรือนชาวบ้านได้รับผลกระทบเสียหายจากพายุลมแรงที่เกิดขึ้นแล้ว ยังมียุ้งข้าวของชาวบ้านได้รับความเสียหายข้าวเปลือกที่เก็บไว้ถูกฝนเปียกทั้งหมด โรงเรือนเลี้ยงสัตว์ก็ได้รับความเสียหายเช่นกัน เบื้องต้นพบกว่า 30 หลัง ซึ่งขณะนี้ทางผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่ปกครองและองค์การบริหารส่วนตำบลสลักได ได้เร่งลงพื้นที่สำรวจความเสียหายที่เกิดขึ้น และให้การช่วยเหลือในเบื้องต้น
นอกจากนี้ในพื้นที่หลายตำบล พบว่าไฟฟ้าดับนานกว่า 6 ชั่วโมง ตั้งแต่ 19.00 น.-01.00 น. เช่นพื้นที่ตำบลแกใหญ่. ถนนปัทมานนท์สายสุรินทร์-จอมพระ, ตำบลแสลงพันธ์ ซึ่งมีสถานที่ตั้งเป็นศูนย์พักคอยผู้มีความเสี่ยงสูงโควิค19 ชาวบ้านต้องอยู่อย่างลำบาก มีการโทรแจ้งไปยังการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคที่รับผิดชอบ ก็ไม่สามารถติดต่อ ชาวบ้านในพื้นที่บอกว่า การไฟฟ้าควรจะมีมาตรการในการเตรียมความพร้อมมากกว่านี้ ขณะที่เบอร์แจ้งเหตุไฟฟ้าขัดข้อง คือ เบอร์ 044-511044 ก็ไม่สามารถต่อต่อได้ ในขณะเกิดเหตุ ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าก็ได้เร่งตรวจสอบแก้ไขให้กับชาวบ้านเร่งด่วนแล้ว.
Discussion about this post