จากกรณีที่โลกโซเชี่ยลได้ลงข่าวเกี่ยวกับช้างป่าดันรั้วป้องกันช้างป่าล้มแล้วพบว่า ไม่มีการฝังเสารั้วลงไปลึก บริเวณพื้นที่ ม.2 ต.วังด้ง อ.เมืองกาญจนบุรี ทำให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ไปต่างๆนานา
เมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2565 ที่บริเวณสำนักงานเขตรักษาพันธุ์ป่าสลักพระ ต.วังด้ง อ.เมืองกาญจนบุรี น.ส.สุนันทา จำปาเงิน ผอ.ป.ป.ช.ประจำ จ.กาญจนบุรี นายธนเกียรติ วัฒนศิลป์ นักสืบสวนคดีทุจริตชำนาญการ ปปช.ภาค 7 นายไพฑูรย์ อินทรบุตร หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ นายสิขกพงษ์ กระแจจันทร์ ผอ.ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่าฯ ได้ร่วมพุดคุยแลกเปลี่ยนให้ข้อมูลเกี่ยวกับเรื่องการสร้างรั้วป้องกันช้างป่าในเขต ต.ช่องสะเดาและ ต.วังด้ง แนวรั้วมีระยะประมาณ 13 กิโลเมตร และมีหลายจุดที่ช้างป่าได้ดันเสารั้วจนล้มเป็นจุดๆ และที่สร้างความเสียหายเป็นอย่างมากกับเสาหลายต้นบริเวณพื้นที่ป่าติดเชิงเขา ม.2 ต.วังด้ง อ.เมืองกาญจนบุรี
ต่อมาคณะของ น.ส.สุนันทา จำปาเงิน ผอ.ป.ป.ช.ประจำ จ.กาญจนบุรี ได้เดินทางด้วยรถยนต์โฟรวิล์ลงพื้นที่ตรวจแนวรั้วป้องกันช้างป่า เริ่มตั้งแต่เขตพื้นที่ ม.5 ต.ช่องสะเดา อ.เมืองกาญจนบุรี เข้าไปในเขตพื้นที่ป่าตามแนวรั้วไปหลายกิโลเมตรจนกระทั่งไปพบต้นเสารั้วป้องกันช้างล้มระเนระนาดหลายต้น และได้ลงไปตรวจดูฐานรากที่หงายขึ้นมาเพราะช้างป่าดันต้นเสารั้วล้มพบว่าฐานของต้นเสารั้วหลายต้นที่ล้มไม่มีตัวฐานแผ่ที่ลงลึกไปในพื้นดินมากนัก จึงน่าจะเป็นสาเหตุที่ทำให้ช้างป่าดันให้ล้มลงง่ายๆ ซึ่งเป็นประเด็นที่โลกโซเชียลวิพากษ์วิจารณ์
จากนั้น น.ส.สุนันท์ จำปาเงิน ผอ.ป.ป.ช.ประจำ จ.กาญจนบุรี เปิดเผยว่า วันนี้ตนพร้อมคณะได้เดินทางลงไปดูในพื้นที่ตามที่เป็นข่าวว่ามันเกิดอะไรขึ้นจริงหรือไม่จริง และอยากรู้ว่าโครงการนี้มีการเบิกจ่ายงบประมาณหรือยัง โครงการนี้เสร็จสิ้นไปหรือยัง แต่ก็ยังไม่ได้ดูสเปคของงานในสัญญา แต่เท่าที่ดูด้วยตามันไม่น่าจะกันช้างป่าได้ ลักษณะของลวดสลิงไม่ได้เส้นใหญ่โตอะไรเลย และที่บอกว่าทำเป็นฐานแผ่ ก็เหมือนทำฐานแผ่ตั้งบนพื้นเฉยๆ ถ้าช้างป่ามีน้ำหนัก 3 ตันแค่วิ่งชนรั้วป้องกันช้างป่าก็ล้มลงแล้ว และเท่าที่ทราบก้ยังไม่มีการส่งงาน ยังไม่ถึงขั้นตอนการตรวจรับ และยังไม่มีการเบิกจ่ายงบประมาณของทางราชการ เท่ากับทางราชการยังไม่เสียหายอะไร ต่อไปก็ต้องดุทางกรมอุทยานฯจะดำเนินการแก้ไขอย่างไร ในเมื่อสัญญาที่ทำกับผู้รับเหมาดุท่าทางจะทำเสารั้วป้องกันช้างป่าไม่ได้ผลจะต้องทำอย่างไรต่อไป ลักษณะของคณะตนที่ลงมาดูในแต่ละพื้นที่ที่เกิเดปัญหาหรือลงมาดูแบบนี้ก็เป็นการป้องปรามไม่ให้เกิดการกระทำทุจรติแล้ว กรณีนี้ดูเบื้องต้นทางราชการยังไม่เกิดความเสียหายอะไร และทางกรมอุทยานฯกับผู้รับเหมายังมีทางแก้ไขปัญหานี้ได้เพราะไม่มีการเบิกจ่ายแต่อย่างใด
ส่วนนายสิขกพงษ์ กระแจจันทร์ ผอ.ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สบอ.(บ้านโป่ง) กล่าวว่า ทางทีมงานที่เป็นคณะกรรมการมีการติดตามตรวจสอบตลอดมาตั้งแต่เริ่มต้น พอพบปัญหาจะมีการประชุมและรายงานให้ทางกรมอุทยานฯได้รับทราบตลอด ในตอนแรกที่สร้างขึ้นพอมีช้างป่าได้ดันรั้วล้มลง ทางคณะกรรมการได้มีการประชุมแล้วดำเนินการสอบถามทางกรมอุทยานฯจะให้ดำเนินการแก้ไขอย่างไร และในประเด็นนี้ก็รายการให้ทางกรมฯได้รับทราบและหาทางดำเนินการแก้ไข เพราะจะต้องให้ทางกรมฯได้พิจารณาอีกครั้ง เพราะเท่าที่ตรวจสอบกันก็พบว่ารั้วแบบนี้ยังไม่สามารถใช้งานได้ตามวัตถุประสงค์คงต้องมีการปรับเปลี่ยน ซึ่งต้องรอทางกรมฯได้ส่งผุ้เชี่ยวชาญมาดุเพื่อปรับเปลี่ยนใหม่ต่อไป.
Discussion about this post