วันนี้ 8 กุมพาพันธ์ 2565 ที่หน้ากองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบช. ภ.3 ได้มอบหมายให้ พล.ต.ต.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 รอง ผบช.ภ.3 (หน.กม) รับผิดชอบ ศูนย์อำนวยการปราบปรามยาเสพติด ศอ.ปส.(ยาเสพติด) พร้อมด้วย พล.ต.ต.ชาญชัย พงษ์พิชิตกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ ,พล.ต.วีระยุทธ รักศิลป์ ผู้บัญชาการกองกำลังสุรนารี (ผบ.กกล. สุรนารี/ผอ.กอ.รมน. ภาค2 สย.2 ) , พ.ต.อ.ธรรมนูญ ฉิมวงษ์ รอง ผบก.ภ.จว.สุรินทร์ พ.ต.อ.ปาริชาติ บรรจงปรุ ผุ้กำกับการตำรวจตระเวชายแดน( ผกก. ตชด. 21) พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อ.เมือง อ.สังขะ จ.สุรินทร์ ได้แถลงข่าวการจับกุมเครือข่ายคดียาเสพติดรายสำคัญ ซึ่งเป็นการปฏิบัติการของตำรวจภุธรจังหวัดสุรินทร์ ร่วมกับชุดปราบรามยาเสพติด ทั้งปกครอง ทหาร ตำรวจตระเวนชายแดน ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ในปกครองร่วมกันสืบสวนจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญ ภายใต้ ยุทธการพิฆาตทรชนคนค้ายาอีสานใต้ สามารถจับกุมผู้ต้องหาคดียาเสพติดได้ 2 เครือข่าย ผุ้ต้องหา 6 คน ของกลางยาบ้า 134,000 เม็ด สารไอซ์ 182 กรัม ตรวจยึดทรัพย์สินจำนวน 12 รายการ ทั้งบ้านพักอาศัย 1 หลัง รถยนต์ส่วนบุคคล จำนวน 5 คัน รถจักรยานยนต์จำนวน 3 คัน และวัสดุคล้ายทองรูปพรรณจำนวน 3 รายการ รวมมูลค่าทรัพย์สินที่ตรวจยึดได้ประมาณ 6,197,100 บาท ทั้งหมดเป็นเครือข่ายเดียวกัน แต่มีการแบ่งซองบรรจุเป็นชนิดใหม่สีดำ เป็นเครือข่ายยาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้านทางทิศตะวันออกของประเทศ โดยมีการเข้ามาตีสนิทกับคนไทย จากนั้นจะชัก ชวนเข้าเป็นเครือข่าย โดยให้ค่าตอบแทนสูง และทำการรับยาเสพติดมากระจายส่งในประเทศไทย ทางเจ้าหน้าที่มีการติดตามสืบสวนอย่างต่อเนื่องจนสามารถจับกุมได้ พร้อมของกลางดังดล่าว และดำเนินการติดตามจับกุมในครั้งนี้ถือเป็นส่วนหนึ่งของการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยตามนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเข้ามาส่วนในการติดตามจับกุมผุ้ต้องหาด้วย
ตามนโยบายของนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำหนดให้การแก้ไขปัญหายาเสพติดเป็นหนึ่งในนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ที่ต้องดำเนินการจริงจังทั้งระบบ โดยเร่งรัดการแก้ไขปัญหายาเสพติด ให้ความสำคัญกับกระบวน การ มีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนรวมทั้งบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ร่วมมือกับประเทศเพื่อบ้าน ปราบปราม แหล่งผลิตและเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติด ทั้งพื้นที่ชายแดนและพื้นที่ตอนใน
และภายใต้การนำของพลตำรวจเอกสุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และพลตำรวจเอกรอย อิงคไพโรจน์ รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ได้นำนโยบารัฐบาลมาเป็นแนวทางในการป้องกันปราบปรามยาเสพติด ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าวสู่การปฏิบัติทุกพื้นที่ โดยตำรวจภูธรภาค 3 ได้มีการสั่งการให้ทุกหน่วยในสังกัด เร่งสืบสวนจับกุมผุ้คายาเสพติดในพื้นรับผิดชอบ ระดมกวาดล้างในทุกมิติ สกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดตามแนวชายแดนและพื้นที่ชั้นในและทำลายเครือข้ายตัดวงจรยาเสพติดทุกระดับ สืบสวนจับกุมขยายผลเครือข่ายผุ้ค้ายาเสพติดต่อเนื่องและจริงจังตามยุทธการ พิฆาตทรชนคนค้ายาอีวานใต้ ซึ่งตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ ภายใต้การนำของ พลตำรวจตรีชาญชัย พงษ์พิชิตกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ ได้ร่วมกับชุดปราบรามยาเสพติด ทั้งฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหาร ตำรวจตระเวนชายแดน ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ในปกครองร่วมกันสืบสวนจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญภายใต้ยุทธการ พิฆาตทรชนคนค้ายาอีสานใต้ ซึ่งเครือข่ายยาเสพติดที่ถูกจับกุมได้ทั้ง 2 เครือข่าย นี้ นับเป็นเครือข่ายใหญ่ เครือข่ายเดียวกัน แต่มีการแบ่งซองบรรจุเป็นชนิดใหม่สีดำ เป็นเครือข่ายยาเสพติดจากประเทศเพื่อบ้าน โดยมีการเข้ามาตีสนิทกับคนไทย จากนั้นจะชักชวนเข้าเป็นเครือข่าย โดยให้ค่าตอบแทนสูง และทำการรับยาเสพติดมากระจายส่งในประเทศไทย ทางเจ้าหน้าที่มีการติดตามสืบสวนอย่างต่อเนื่องจนสามารถจับกุมได้ พร้อมของกลางดังดล่าว และดำเนินการติดตามจับกุมในครั้งนี้ถือเป็นการใช้เทคโนโลยีตามนโยบายของผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติเข้ามาส่วนในการติดตามจับกุมผุ้ต้องหาด้วย
พล.ต.ต.คีรีศักดิ์ ตันตินวะชัย รองผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 กล่าวว่า ประชาชนสามารถมีส่วนร่วมในการแจ้งเบาะแส ของขบวนการค้ายาเสพติด ในพื้นที่รับผิดชอบตำรวจภูธรภาค 3 โดยแจ้งข้อมูลผ่านสายด่วนยาเสพติด 1599 , สาย ด่วน 191 , Application Police I lert U และ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสุรินทร์ สายด่วน 567 ได้ตลอด 24 ชม. เพื่อ ดำเนินการปราบปราม จับกุม ดำเนินคดีผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และลดปัญหายาเสพติด ในภาพรวม อย่างต่อเนื่องและเข้มข้น เพื่อให้สังคมมีความปลอดภัยจากปัญหายาเสพติด ปัญหาอาชญากรรมที่เกี่ยวเนื่องกับยาเสพติด ขณะนี้ตำรวจภูธรภาค 3 ได้นำเอาเทคโนโลยี ติดตามขบวนการค้ายาเสพติด คดีอาชญา กรรม ผ่านระบบการสื่อสารในยุคดิจิตอล สามารถติดตามความเคลื่อน ไหวของขบวนการค้ายาเสพติดได้ต่อเนื่องรวดเร็วและถูกต้อง ซึ่งยาเสพติดเหล่านี้ มีการเชื่อมโยงกับประเทศเพื่อนบ้านมีการใช้เงินล้อใจในการหาเครือข่ายรายใหม่ๆในการจำหน่าย มีขบวนการวางยา นักบินรายใหม่ๆเกิดขึ้น ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ภูธรภาค 3 ร่วมกับทหาร ในการนำเอาเทคโนโลยีในการติดตาม และปราบปรามอาชญากรรม และขบวนการค้ายาเสพติดสามารถจับกุมได้ตัวผู้ต้องหาและตรวจยึดทรัพย์สิน ดำเนินคดีตามกฎหมาย อย่างต่อเนื่องเฉพาะในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ในช่วงปีที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้ ตรวจจับยาบ้าได้กว่า 6 แสน เม็ด ตรวจยึดทรัพย์สินจำนวนมาก และนำตัวผู้ต้องหานับสิบราย ดำนินคดีตามกฎหมายให้ถึงที่สุดต่อไป.
Discussion about this post