วันที่ 8 ก.พ.2565 นางประเวช ต่ายเนาว์ดง อายุ 46 ปี บ้านเลขที่ 65 ม.6 ต.เหล่าปอแดง อ.เมือง จ.สกลนคร พร้อมด้วยชาวบ้าน 10 คน เข้าร้องเรียนต่อ นายสังสรรค์ อุ่นคำ ผอ.ศูนย์ดำรงธรรม จ.สกลนคร ว่าการเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้านที่ผ่านมาเมื่อวันที่ 4 ก.พ.2565 ไม่โปร่งใส
จึงขอคัดค้านการเลือกตั้งดังกล่าว โดยสิ่งที่ส่งมาด้วย เป็นภาพเคลื่อนไหวจากกล้องวงจรปิด ณ หน่วยเลือกตั้ง และประกาศ
อำเภอเมืองสกลนคร เรื่องการเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้านต้องเป็นไปโดยสุจริตและเที่ยงธรรม ลงวันที่ 14 มกราคม 2565 โดยได้กำหนควันเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้าน ในวันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2565 ตั้งแต่เวลา 08.00-15.00 น. ณ วัดอัมพาวนาราม หมู่ที่ 6 ต.เหล่าปอแดง ปรากฏว่า การเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้านในวันดังกล่าว อาจมีการกระทำโดยไม่สุจริตและเที่ยงธรรม ส่งผลให้ตนซึ่งเป็นผู้สมัครรับการเลือกตั้ง หมายเลข 2 เกิดความสงสัย จึงได้ดำเนินการขอตรวจสอบกล้องวงจรปิดจากวัดอัมพาวนาราม ซึ่งเป็นหน่วยเลือกตั้ง โดยมีประเด็นและพฤติกรรมของการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ดังรายละเอียดต่อไปนี้ 1.ไม่อนุญาตให้ผู้ช่วย ผญบ.ขึ้นป้ายร่วมกับผู้สมัครผู้ใหญ่บ้าน 2.ต้องส่งเอกสารการทำป้ายที่มีสโลแกนและตติพจน์ รวมถึงนโยบายให้ตรวจก่อน ถึงจะอนุญาตให้เริ่มรณรงค์หาเสียง 3.เจ้าหน้าที่มีเจตนายื้อเวลาทำให้เสียเวลา เช่น ให้ผู้สมัครลงเลือกตั้งไม่เป็นบรรทัดฐานเดียวกันบางคนต้องเขียนด้วยลายมือ บางคนต้องพิมพ์เป็นเอกสาร และในการขอใช้เสียงก็ไม่ให้ความกระจ่างในครั้ง
เดียว ทำให้ต้องเสียเวลากลับไปกลับมาระหว่างสถานีตำรวจฯ กับเทศบาลทำให้ต้องเสียเวลาหลายวันในกาดำำเนินการ อีกประเด็นคือไม่ให้ผู้สังเกตการณ์เลือกตั้ง ขึ้นไปนั่งบนหน่วยเลือกตั้ง เพื่อสังเกตการณ์เลือกตั้ง โดยอ้างว่าไม่มีใบอนุญาต ทั้งที่ผู้สมัครได้ยื่นขออนุญาตไปแล้ว
“เมื่อมีการใช้สิทธิ์เลือกตั้ง สังเกตได้ว่าผู้มีสิทธิ์ในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา มีจำนวนผู้ใช้สิทธิ์เลือกตั้ง ประมาณ 453 คน แต่ครั้งนี้ด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาคของเชื้อไวรัสโค
(COVID-19) ทำผู้ที่มีสิทธิ์ในการเลือกตั้ง ไม่สามารถเดินทางกลับภูมิสำนากลับมาใช้สิทธิ์ได้ ในครั้งนี้จึงมีผู้มาใช้สิทธิ์ 509 คน ซึ่งมากกว่าปกติ และหมดเวลาใช่สิทธิ์ก่อนจะเริ่มนับคะแนน คณะกรรมการการเลือกตั้งควรแจ้งจำนวนผู้มาใช้สิทธิ์ ให้ตรงตามบัตรที่นับจนทำให้เกิดข้อสงสัยว่า ผลการนับคะแนนของผู้ถงสมัครทั้ง 2 หมายเลข ทั้งบัตรดี บัตรเสียและบัตรไม่ประสงค์ลงคะแนน ทำให้ไม่ทราบจำนวนผู้มาใช้สิทธิ์ที่แน่ชัด ขณะที่ประชาชนใช้สิทธิ์ลงคะแนน มีผู้สังเกตการณ์ของผู้สมัครหมายเลข 1 นำบัตรประชาชน มาแจ้งให้เจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้ง แล้วเดินออกไปอีก สักพักหนึ่ง ก็กลับมานั่งรอบริเวณที่เลือกตั้ง จากนั้นก็มีประชาชนสวมผ้าโพกหัวปกคลุมใบหน้า สวมแว่นตาดำและสวมหน้ากากอนามัย ขึ้นมาใช้สิทธิ์เลือกตั้ง พบว่าเจ้าหน้าที่ไม่มีการตรวงสอบ หรือให้บุคคลนั้นยืนยันตัวตน ที่สำคัญเมื่อมีการนับคะแนน คณะกรรมการเลือกตั้งบางคนส่อพิรุธ โดยทำมือขยุกขยิก ในบัตรเลือกตั้ง ตอนเอาบัตร มาคลี่ 30 วินาที – 1 นาที ก่อนยื่นให้เจ้าหน้าที่อีกคนวินิจฉัย และขานหมายเลขที่มีการเลือก มีการเอาบัตรมาคลี่ดูการกากบาท (X) แต่ละบัตร แล้วรวบรวมลงหีบบัตรเหมือนเดิม ไม่ส่งต่อให้
เจ้าหน้าที่ คนที่ 2 วินิจฉัยและขานหมายเลขที่มีการเลือก คัดแยกบัตรเลือกตั้ง เป็นกอง ๆ โดยแยกบัตรที่กากบาท (X) เบอร์ 1 เบอร์ 2 แล้วนำกลับลงหีบเหมือนเดิม ไม่ส่งบัตรให้วินิจฉัยและขานหมายเลขที่มีการเลือก ด้วยเหตุนี้จึงไม่สามารถยอมรับผลการเลือกตั้งและขอคัดค้านการเลือกตั้งผู้ใหญ่บ้านในครั้งนี้ โดยขอให้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงให้เกิดความโปร่งใส บริสุทธิ์และยุติธรรม” นางประเวช กล่า ต่อมา นายวีระ ฤกษ์วาณิชย์กุล ปลัดจังหวัดสกลนคร รับเรื่องไว้พร้อมรับปากจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย โดยแนะนำให้ผู้ร้องคัดค้าน ไปยื่นคัดค้านต่อนายอำเภอเมืองสกลนครไว้ก่อน นอกจากนี้นางประเวช ต่ายเนาว์ดง ยังได้ไปยื่นหนังสือร้องเรียนต่อ นายสุกฤษฏิ์ เทียวแก้ว ผู้อำนวยการสำนักงาน ป.ป.ช.ประจำจังหวัดสกลนคร เพราะสงสัยในพฤติกรรมของเจ้าหน้าที่ประจำหน่วยเลือกตั้งว่าอาจจะไม่สุจริต เพราะในการนับคะแนนกลับไปนับในจุดด้านหลัง การนับคะแนนก็ใช้ 3 คนรุมนับ ซึ่งผิดระเบียบของการเลือกตั้ง
วัฒนะ แก้วก่า/สกลนคร
Discussion about this post