ประธานเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน(ทสม.) จ.ระยอง ยืนยันว่ามีกลุ่มชาวประมงที่ออกเรือจับสัตว์น้ำพบคราบน้ำมันรั่วไหลจากจุดเดิมตั้งแต่กลางดึกเมื่อคืนแล้ว สาเหตุจากเจ้าหน้าที่บริษัทฯ เข้าไปยกท่อขึ้นมาตรวจสอบ ซึ่งได้สอบถามไปที่ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง ได้รับคำตอบว่า ยังไม่ได้อนุญาตให้ใครเข้าไปทำอะไร เพราะขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างการสืบสวนสอบสวน ถือว่าเป็นการกระทำละเมิดคำสั่งน่าจะเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย”
นายสุรินทร์ สินรัตน์ ประธานเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน(ทสม.) จ.ระยอง เปิดเผยว่าได้รับแจ้งจากเรือประมงพื้นบ้านเล็กออกไปเก็บอวนกลางทะเลช่วงเวลา 01.00 น.วันนี้(9 ก.พ.) พบเห็นที่บริเวณ จุดเกิดเหตุน้ำมันรั่วทุ่นลอย(SPM) เจอเรือกำลังวางบูมล้อมไม่รู้ว่ากำลังทำอะไรกัน ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 12.00 น.วันเดียวกัน เรือตกปลาโทรมาแจ้งว่าเจอคราบน้ำมันลอยมาทางที่วางบูม เข้ามายังเรือที่เขากำลังตกปลา กังวลว่าคราบน้ำมันจะพัดเข้าหาดแม่รำพึง
ทั้งนี้ได้โทรสอบถามไปที่ผู้อำนวยการสำนักงานท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด(ผอ.สทร.)ว่าบริเวณทุ่นลอย(SPM)จุดน้ำมันรั่วจากท่ออ่อนใต้น้ำ มีกิจกรรมอะไร ได้รับคำตอบได้ข่าวว่ามีเจ้าหน้าที่ของบริษัทออกไปเก็บท่อน้ำมันจุดที่รั่วเพื่อเอาขึ้นมา และมีน้ำมันที่ค้างอยู่ในท่อดังกล่าวไหลออกทะเลและมีการเก็บกู้คราบน้ำมันที่ไหล จึงได้แจ้งให้ทราบว่าคราบน้ำมันมุ่งหน้าเข้ามาทางหาดแม่รำพึง ต.ตะพง
พร้อมกับได้สอบถามไปยังนายชาญนะ เอี่ยมแสง ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง แจ้งว่ายังไม่ได้อนุญาตให้ใครเข้าไปทำอะไร เพราะขณะนี้ยังอยู่ในระหว่างการสืบสวนสอบสวน “ซึ่งในความเห็นส่วนตัวผมจากการที่ทางบริษัทฯเข้าไปดำเนินการรื้อ ถอดซ่อมหรือถอดชิ้นส่วนที่เกี่ยวข้องกับท่อน้ำมันรั่วขึ้นมา ควรจะได้รับการอนุญาตจากคณะกรรมการที่ผู้ว่าราชการจังหวัดแต่งตั้งขึ้นมา ซึ่งท่านได้ประกาศเป็นเขตภัยพิบัติเรื่องน้ำมันรั่ว เพราะฉะนั้นท่านเป็นผู้มีอำนาจสั่งการที่ใครจะเข้าไปในบริเวณจุดเกิดเหตุ ตั้งแต่ในทะเลจนถึงชายหาดแม่รำพึง เท่าที่ทราบที่มีการเข้าไปเก็บท่อยางขึ้นมาแล้วเกิดน้ำมันรั่วไหลลงทะเลซ้ำอีกครั้ง ไม่มีการแจ้งหรืออนุญาตมาก่อนล่วงหน้า ขอให้แสดงความรับผิดชอบด้วยว่ากระทำละเมิดคำสั่งประกาศพื้นที่ประสบภัยพิบัติของจังหวัด น่าจะเป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย.
Discussion about this post