วันที่ 18 ก.พ.2565 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีช้างป่าเข้ามาทำลายบ้านเรือนและพืชผลทางการเกษตรของช้าวบ้านได้รับความเสียหาย ที่หมู่บ้านวังกวาง ต.วังท่าช้าง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี
หลังจากได้รับแจ้งจึงได้ลงตรวจสอบในพื้นที่ ม.11 บ้านวังกวาง ต.วังท่าช้าง อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี บริเวณบ้านเลขที่ 166/2 ม.11 ต.วงัท่าช้าง พบเป็นบ้านปูนชั้นเดียวปลูกอยู่ภายในสวนป่ายูคาและป่าปาล์ม บริเวณกำแพงบ้านที่สร้างด้วยอิฐบล๊อคที่ยังไม่ได้ฉาบปูนถูกช้างเข้ามาทำลายได้รับความเสียหายพังลงมา และได้ดึงเอากระสอบข้างเปลือกที่อยู่ข้างในบ้านออกมา 2 กระสอบทำให้ข้าวเปลือกหกหล่นทั่วบริเวณนั้น และบริเวณรั้วตะแกรงอีกฝั่งของบ้านและหลังคาสังกะสีถูกช้างทำลายได้รับความเสียหายด้วยเช่นกัน จากการตรวจสอบบริเวณรอบๆบ้านพบต้นปาล์ม ต้นกล้วย มันสัมปะหลัง ถูกช้างป่าตึงถอนขึ้นมากินได้รับความเสียหาย และยังพบรอยเท้าช้างขนากดใหญ่และขี้ช้างอยู่ในสวน และก่อนหน้านี้ 2 วันที่ผ่านมาบริเวณบ้านเลขที่ 104/2 ม.11 ต.วังท่าช้าง ได้มีช้างป่าเข้ามาทำลายต้นกล้วย ต้นมะละกอ รั้วบ้าน และยุ้งข้างเปลือกของชาวบ้านได้รับความเสียหายและเอากระสอบข้าวเปลือกออกมากินได้รับความเสียหายมาก่อนหน้านี้แล้ว
จากการสอบถาม นายอัมพร พาดี อายุ 61 ปี อยู่บ้านเลขที่ 166/2 ม.11 ต.วังท่าช้าง กล่าวว่าเมื่อคืนวันที่ 16 ก.พ.65 ช้างได้เข้ามาที่สวนและได้มาทำลายพืชผลผลิตที่ปลูกไว้มีต้นกล้วย ต้นปาล์ม ผนังบ้านและข้าวเปลืกได้รับความเสียหาย คาดว่าช้างน่าจะเข้ามาแค่ตัวเดียวจากการที่สำรวจ ถ้ามาหลายตัวน่าจะได้รับความเสียหายมากกว่านี้ ดูจากรอยเท้าแล้วช้างตัวนี้น่าจะตัวใหญ่มากคงจะสูงกว่าบ้านหลังนี้ เพราะมีชาวบ้านแถวนี้เขาเห็นกัน อยากฝากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงมาดูแลให้หน่อยเพราะว่าชาวบ้านเขาเดือดร้อน ผลผลิตที่ปลูกไว้กว่าจะโตและให้ผลผลิตได้ใช้เวลาปลูกเกือบ 10 ปี แล้วก็มาถูกทำลายแบบนี้
จากการสอบถาม นายวิสิษฐ์ แซ่อึ้ง อายุ 71 ปี อยู่บ้านเลขที่ 104/2 ม.11 ต.วังท่าช้าง กล่าวว่าช่วงเช้ามืดเวลา 4.00 น.วันทีุ่ 15 ที่ผ่านมาได้มีช้างตัวใหญ่เข้ามาในบริเวณบ้านของตน 1 ตัว มาทำลายต้นไม้บริเวณหน้าบ้านหักลงหมด และถอนต้นมะละกอและต้นกล้วยบริเวณหลังบ้านและก็พังประตูรั้วไม่ไผ่บริเวณหน้าบ้านออกไปข้ามถนนลงไปในป่ามันหน้าบ้าน และช่วงค่ำเวลาประมาณ 20.30 น.ของวันที่ 15 ตอนนั้นตนกำลังนั่งเล่นอยู่หน้าบ้านก็ได้มีช้างตัวขนาดกลางๆ 1 ตัว เดินเข้ามาในบริเวณบ้านอีกเช่นกันเขาเข้ามายืนอยู่หน้าเล้าหมู สักพักนึงเขาก็เดินมาด้านข้างบริเวณที่ตนเก็บข้าวเปลือก พอเขาเห็นข้าวก็เข้ามาเพื่อจะเอาข้าวแต่เอาไม่ได้เขาก็เลยกระแทกหลังคาจนกระเบื้องและคานหลังคาได้รับความเสียหายและก็เอาข้าวเปลือกออกมากิน
ทางด้านนายทวัชชัย ทรศักดิ์ (หลานชาย) กล่าวว่า ถ้าเขามาแล้วไม่ทำลายข้าวของเขาก็รับได้อยู แต่ถ้ามาแล้วมาทำลายอาคารวัสดุแบบนี้เราก็รับไม่ได้เพราะข้าวของเสียหาย แต่ถ้าเป็นพืชตนก็ไม่หวงเขากินหรอกต่างคนต่างแบ่งกันได้อยู่
เบื้องต้นได้มีทางเจ้าหน้าที่ได้ลงมาตรวจสอบในที่เกิดเหตุแล้ว
Discussion about this post