เตรียมลงดูดน้ำมันค้างท่อ 1.2 หมื่นลิตร คาดใช้เวลา 2 วัน ก่อนลงมืออุดรอยรั่วของท่อใต้ทะเล มีแผนดำเนินการ 11 วันแล้วเสร็จ 

วันที่ 21 ก.พ.65 นายจิระศักดิ์ มหาสุคนธ์ ผู้จัดการทรัพยากรบุคคล บริษัทสตาร์ปิโตรเลี่ยม รีไฟน์นิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ SPRC กล่าวว่า หลังจากที่กรมเจ้าท่า ได้อนุมัติให้เข้าอุดรอยรั่วของท่อร้ำมันดิบใต้ทะเล ขั้นตอนแรก จะเริ่มปฏิบัติการในวันที่ 22 ก.พ.65 นี้ เริ่มจากการดูดเอาน้ำมันดิบที่ค้างอยู่ในท่อจำนวนประมาณ 12,000 ลิตร ออกมาทั้งหมดก่อน โดยคาดว่าจะใข้เวลาในการนำน้ำมันที่ค้างท่อออกมาประมาณ 2 วัน หลังจากนั้นถึงจะเริ่มขั้นตอนการปฏิบัติการซ่อมรอยรั่วของท่อต่อไปทันที โดยจะดำเนินตามแผนการที่นำเสนอต่อกรมเจ้าท่า ซึ่งจะมีหน่วยงานภาครัฐ และเอกชน ร่วมกันในการปฏิบัติการซ่อมรอยรั่วของท่อน้ำมันดิบใต้ทะเล ที่อยู่ลึกลงไปประมาณ 27 เมตร ห่างจากฝั่งประมาณ 20 กิโลเมตร ตามแผนวางไว้ประทาณ 11 วัน จะแล้วเสร็จ

ในส่วนการตรวจสอบคราบน้ำมัน ขณะนี้ยังคงมีเรือตรวจตราอยู่ในทะเล และยานล่าทำลายทุ่นระเบิดของทัพเรือภาคที่ 1 สำรวจท่อใต้น้ำด้วย พร้อมใช้โดรนตรวจสอบคราบน้ำมันด้วย แต่ปัจจุบันไม่พบว่ามีคราบอยู่ในทะเล นอกจากนี้ยังมีการจัดกำลังเจ้าหน้าที่เดินเท้าตรวจสอบตามชายหาดแม่รำพึง และ ชายหาดอื่น หากพบคราบน้ำมัน ก็จะมีการเข้าไปเก็บกู้ในทันที.

ต่อมาในช่วงเย็น ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เรือหลวงหนองสาหร่าย กองเรือทุ่นระเบิด กองเรือยุทธการ ได้ทำการลอยลำเตรียมความพร้อมปฏิบัติการทันที่ถ้ามีสั่งการ บริเวณทุ่นผูกเรือน้ำลึกแบบทุ่นเดี่ยวกลางทะเลหรือจุดขนถ่ายน้ำมันในทะเล (SPM) ของบริษัทสตาร์ ปิโตเลียม รีไฟน์นิ่งจำกัด (มหาชน) ระยะห่างจากชายฝั่งบริ เวณมาบตาพุด อ.เมืองระยอง ประ มาณ 20 กิโลเมตร จากเหตุการณ์กรณีน้ำมันดิบรั่วไหล โดยเตรียมการ นำยานล่าทำลายทุ่นระเบิด ที่อยู่กับภารกิจเรือหลวงหนองสาหร่าย มาสำรวจจุดเกิดเหตุท่อรั่ว ที่อยู่ใต้ทะเลงมีความลึก 27 – 30 เมตร โดยพร้อมที่จะปฏิบัติการทันทีที่มีสั่งการ.