วันที่ 22 ก.พ.65 ที่ อาคารศูนย์ศิลปาชีพเครื่องปั้นดินเผา พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ ตำบลกะลุวอเหนือ อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส พลตรี เฉลิมพร ขำเขียว ผู้บัญชาการกอง พลทหารราบที่ 15 / ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เดินทางมาเป็นประธานพิธีเปิดกิจกรรมสานสัมพันธ์สมาชิกศิลปาชีพ ขับเคลื่อนงานโครง การอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ด้วยศูนย์ประสานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ สืบสาน รักษา และต่อยอดงานตามพระราชเสาวนีย์ ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหา ราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 ที่ทรงมีพระราชดำริจัดตั้งโครงการศิลปาชีพ ขึ้นเพื่อสร้างอาชีพและรายได้ เป็นศูนย์กลางในการจัดหาวัตถุ ดิบ รับซื้อ เก็บรักษาและจัดจําหน่ายผลิตภัณฑ์งานหัตถกรรมให้กับสมาชิกศิลปาชีพ พระองค์ทรงตระหนักถึงคุณค่าของศิลปะประจำชาติ ทรงมีพระราชดำริให้ฟื้นฟู เสริมสร้างช่างฝีมือ และธํารงรักษางานหัตถกรรมไทยให้พัฒนายิ่งขึ้น ซึ่งมีศูนย์ประ สานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริเป็นหน่วยประสานงาน ติด ตามให้การสนับสนุนการดำเนินงานโครงการศิลปาชีพในพื้นที่จังหวัดนราธิวาสมาอย่างต่อเนื่อง เพื่ออนุรักษ์ สืบสานภูมิปัญญา สืบสานงานศิลปาชีพ และเป็นการส่งเสริมงานโครงการศิลปาชีพของจังหวัดนราธิวาส สนองพระราชดำริสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มีอาชีพเสริมมีรายได้ที่แน่นอน สามารถพึ่งพาตน เองได้ตามแนวพระราชดําริ รวมถึงเพื่ออนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทยและวัตถุดิบในท้องถิ่นให้คงอยู่สืบไป กิจกรรมในครั้ง มีสมาชิกกลุ่มศิลปาชีพในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ที่มีความสนใจเข้ามาร่วมกิจกรรม จำนวน 80 คน ซึ่งกิจกรรมดังกล่าว จัดขึ้นภายใต้มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดเชื้อไวรัสโควิด 19 อย่างเคร่งครัด
โดยมี พันเอกยุทธนา สายประเสริฐ ผู้บังคับการกรมทหารราบที่ 151/ หัวหน้าคณะทำงานที่ 3 , นายรอสารี มะลี ประธานกลุ่มศิลปาชีพ เครื่อง ปั้นดินเผา พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ และสมาชิกกลุ่มกลุ่มศิลปาชีพ เครื่องปั้นดินเผา พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ ร่วมให้การต้อนรับ
ทั้งนี้ พลตรี เฉลิมพร ขำเขียว ผอ. ศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ได้พบปะเยี่ยมเยียน และให้กำลังใจ พี่น้องสมาชิกโครงการศิลปาชีพ ที่มาเข้าร่วมกิจกรรม ในห้วงการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19
โดยกล่าวว่า การกิจกรรมสานสัมพันธ์สมาชิกศิลปาชีพ ขับเคลื่อนงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น จัดขึ้นเพื่อสร้างการรับรู้ และการพัฒนาเครือข่ายความร่วมมือระหว่างประชาชนในพื้นที่กับภาครัฐ รวมทั้งเพื่อสร้างความสัมพันธ์ และขวัญกำลังใจให้กับสมาชิกศิลปาชีพ ส่งเสริมชุมชนฐานรากให้มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น มีทางเลือกในการประกอบอาชีพเสริม ส่งเสริมคุณภาพชีวิต ทำ ให้เกิดสำนึกรัก และผูกพันในถิ่นกำเนิด ช่วยให้ประชาชนในพื้นที่ไม่ละทิ้งถิ่นฐาน พี่น้องไทยพุทธ พี่น้องไทยมุสลิม อาศัยอยู่ร่วมกันภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรม ตลอดจนเพื่อช่วยเหลือประชาชนที่ว่างงานให้เป็นแหล่งศึกษาหาความรู้เพื่อนำไปประกอบอาชีพงานด้านเครื่องปั้นดิน เผา เป็นการสร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ ให้สมาชิกสามารถใช้วิชาชีพ เลี้ยงดูตนเอง และครอบครัวได้ต่อไป
จากนั้น พลตรี เฉลิมพร ขำเขียว ผู้อำนวยการศูนย์ประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ และคณะเดินทางต่อไปยัง อาคารเฉลิมพระ เกียรติ 72 พรรษาโครงการหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงฯ บ้านรอตันบาตู ได้เยี่ยมเยียน พบปะ สมาชิกหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงฯ บ้านรอตันบาตู และ สมาชิกกลุ่มศีลปาชีพเครื่องปั้น ดินเผา บ้านรอตันบาตู พร้อมทั้งมอบความห่วงใย มอบเครื่องอุปโภค บริ โภค และหน้ากากอนามัย เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องสมาชิกฯในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19 พร้อมทั้งเยี่ยมชมต้นไม้ทรงปลูก เยี่ยมชมศาลาทรงงาน และ ถ่ายภาพที่ระลึก กับ คณะกรรมการหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงฯ บ้านรอตันบาตู สร้างความปลาบปลื้มใจ ให้แก่พี่น้องสมาชิกหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียงฯ บ้านรอตันบาตู เป็นอย่างมาก
ความเป็นมาของโครงการศูนย์ศิลปาชีพเครื่องปั้นดินเผา พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ เมื่อครั้ง พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ในหลวงรัชกาลที่ 9 และ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวงพร้อมด้วยพระบรมวงศานุวงศ์ เสด็จแปรพระราชฐานมาประทับแรม ณ พระตำหนักทักษิณราชนิเวศน์ เป็นประจำทุกปี พ.ศ.2516 เป็นต้นมา ได้เสด็จเยี่ยมเยือนราษฎรในพื้นที่ชนบทต่าง ๆ หลายแห่ง พระองค์ได้ทรงพบเห็นปัญหาความยากจนและการประกอบอาชีพของราษฎรในพื้นที่ต่างๆ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงมีพระราชเสาวนีย์ให้ดำเนินการเป็นโครงการส่วนพระองค์ ในปี 2528 ใช้ชื่อว่า ” โครงการศูนย์ศิลปาชีพเครื่องปั้นดินเผา ” ในการฝึกอบรมด้านเครื่องปั้นดินเผาเพื่อเป็นอาชีพเสริมแก่ราษฎรทางภาคใต้โดยใช้ทุนทรัพย์ส่วนพระองค์ และมีหน่วยราชการหลายหน่วยเข้าร่วมดำเนินการ สนองพระมหากรุณาธิคุณ เช่น กระทรวงวิทยาศาสตร์เทคโนโล ยี และพลังงาน กองทัพภาคที่ 4 และ จังหวัดนราธิวาส วัตถุประสงค์ เพื่อส่งเสริมให้ราษฎรในพื้นที่ได้มีโอกาสประกอบอาชีพมั่นคง และมีรายได้เพียงพอต่อความเป็นอยู่ ตามสมควรแก่อัตภาพ นำเอาทรัพยากรธรรม ชาติที่มีอยู่ในพื้นที่มาใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างคุ้มค่า.
Discussion about this post