ชาวบ้านหมู่ 10 ต.บึงกอก อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก รวมกลุ่มกับเรียนรู้และผลิตขนมไทยโบราณ เน้นวัตถุดิบมีในท้องถิ่น กระตุ้นให้ชาวบ้านมีรายได้เพิ่มขึ้น หลังจากว่างเว้นจากการทำอาชีพเกษตร เป็นการสร้างความรักสามัคคีในชุมชน พร้อมต่อยอดให้สามารถผลิตได้ตลอดปี
วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2565 ที่อาคารอเนกประสงค์บึงกอกพัฒนา หมู่ 10 ตำบลบึงกอก อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก กลุ่มแม่บ้านบึงกอกพัฒนา หมู่ที่ 10 ต.บึงกอก อ.บางระกำ จ.พิษณุโลก กว่า 20 คน ได้รวมกลุ่มเพื่อเรียนรู้และร่วมกันผลิตขนมไทยโบราณขึ้น โดยวันนี้ได้ร่วมกันผลิต “ขนมดอกดิน” ขนมโบราณตามวิถีชาวบ้าน ซึ่งขนมดอกดิน เป็นขนมโบราณที่นิยมทำเพื่อรับประทานเป็นขนมหวานกันมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ โดยใช้ดอกดิน ซึ่งเป็นดอกไม้ที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติมาเป็นส่วนผสมในการทำขนมชนิดนี้ และส่วนใหญ่ดอกดินจะออกในช่วงฤดูฝน
นางสำฤทธิ์ หน่อแก้ว อายุ 53 ปี ประธานกลุ่มแม่บ้านบึงกอกพัฒนา หมู่ 10 กล่าวว่า ชมรมแม่บ้านบึงกอกพัฒนา หมู่ที่ 10 เป็นกลุ่มที่ชาวบ้านร่วมกันจัดตั้งขึ้นเพื่อส่งเสริมอาชีพและสร้างรายได้ให้กับชุมชนด้วยการทำขนมโดยใช้วัตถุดิบในท้องถิ่น ทั้งนี้นอกจากจะมีขนมดอกดินจำหน่ายแล้ว ยังมีขนมบ้าบิ่น ขนมตาล ขนมกล้วย ขนมแตง และข้าวต้มมัด สำหรับตนเดิมทีทำขนมจำหน่ายเองที่บ้าน จากนั้นจึงได้รวมกลุ่มประชาชนในหมู่บ้านจัดตั้งขึ้น โดยมีสมาชิกทั้งหมด 20 คน ซึ่งได้รับความสนับสนุนจาก กศน. ตำบลบึงกอก ในการสนับสนุนให้หมู่บ้านมีรายได้เสริม สมาชิกจึงลงมติกันว่าจะทำขนมเป็นอาชีพเสริม
สำหรับวันนี้ทางชมรมกำลังทำขนมดอกดินเพื่อจำหน่าย ซึ่งดอกดินเป็นดอกไม้ที่เกิดตามภูเขาในช่วงเดือนกันยายน-ตุลาคม ชาวบ้านจะขึ้นไปเก็บดอกดินบนภูเขามาจำหน่ายให้กับทางชมรมฯ จากนั้นจะนำดอกดินที่ได้มาล้างน้ำเพื่อทำความสะอาด หั่นเป็นชิ้นเล็กๆ แล้วนำใส่ถุง ถุงละ 1 กิโล กรัม แล้วนำไปแช่ในช่องฟรีซ เพื่อใช้ความเย็นเก็บรักษาคุณภาพไว้สำหรับทำขนม ทำให้สามารถที่จะนำมาทำขนมได้ตลอดปี เนื่องจากดอกดินเป็นดอกไม้ที่มีกลิ่นหอมและเมื่อเก็บรักษาไว้นานความหอมก็ยังอยู่ ชาวบ้านจึงนิยมนำมาทำเป็นขนม สำหรับวิธีการทำ ได้ปรับสูตรจากสูตรดั้งเดิมของบรรพบุรุษ คือ เดิมทีจะไม่ใส่กะทิ แต่สูตรของตนจะใส่กะทิเพื่อให้ขนมมีความหอม ความนุ่มและความมัน
วิธีการทำขนมดอกดินนั้น เริ่มจากนำดอกดินที่แช่ช่องฟรีซมาแช่น้ำละลายน้ำแข็ง จากนั้นนำดอกดิน 500 กรัม ไปปั่นเข้ากับกะทิ 1 กล่องใหญ่ ซึ่งหากเป็นกะทิสดจะยิ่งทำให้ขนมมีรสชาติดี เมื่อปั่นจนเป็นเนื้อเดียวกันแล้ว นำมาเทใส่ภาชนะขนาดกว้าง จากนั้นใส่เกลือครึ่งช้อนโต๊ะ ตามด้วยน้ำตาลปี๊บ 1 กิโลกรัม จากนั้นใช้ตะกร้อคนจนส่วนผสมทั้งหมดรวมเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วเทแป้งข้าวเหนียวจำนวน 1 กิโลกรัม ลงไปและใช้ตะกร้อคนจนเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วหมักทิ้งไว้ 3 ชั่วโมง เมื่อครบเวลาแล้ว นำกระทงใบตองที่เตรียมไว้ วางเรียงในชั้นซึ้ง หยอดน้ำมันพืชใส่กระทงใบตอง แล้วจึงหยอดแป้งที่เตรียมไว้ลงไปในกระทง โรยหน้าขนมด้วยมะพร้าวทึนทึก จากนั้นนำไปนึ่งบนเตาโดยใช้ไฟแรง ซึ่งใช้เวลาในการนึ่งประมาณ 25 นาที เมื่อขนมสุกจะมีกลิ่นหอมของขนมดอกดินจะลอยขึ้นมากับไอน้ำ ชวนให้น่ารับประทาน และเนื้อขนมในขณะนึ่งสุกใหม่ ๆ จะมีความเหนียวนุ่ม ให้รสชาติหวานมัน เป็นขนมโบราณอีกหนึ่งชนิดที่นับว่ารสเลิศ
นางสำฤทธิ์ หน่อแก้ว ยังบอกอีกว่า ในหนึ่งครั้งสามารถทำขนมได้มากถึง 100-200 กระทง เพราะขนมดอกดินได้รับผลตอบรับดีมาก ลูกค้าชื่นชอบ จึงทำให้มีพื้นที่ในการขายเพิ่มมากขึ้น จากที่ขายตามตลาดนัดทั่วไป ก็มีลูกค้าโทรเข้ามาสั่งซื้อ อีกทั้งบางรายยังสั่งเป็นขนมจัดเบรก สำหรับงานประชุม สัมมนาต่าง ๆ อีกด้วย โดย ขนมดอกดินจำหน่ายที่ 4 กระทงราคา 10 บาท และจัดเป็นกล่อง 10 กระทง ราคา 25 บาท สามารถสั่งซื้อได้ที่ Facebook : สำฤทธิ์ หน่อแก้ว และ Facebook : ปราณี มากอยู่ หรือเบอร์โทรศัพท์ 094-946-8226.
Discussion about this post