เมื่อวันที่ 14 มีนาคม 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บริเวณริมฝั่งแม่น้ำลำปาวบ้านข้าวหลาม หมู่ 2 ห่างจากที่ทำการ อบต.กมลาไสย อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ประมาณ 2 กม. เจ้าหน้าที่กู้ชีพกู้ภัยและนักประดาน้ำ จาก อบต.กมลาไสย, หน่วยกู้ชีพกุดหว้าจุดกมลาไสย, หน่วยกู้ชีพอโศกร่องคำ และเมตตาธรรมกาฬสินธุ์ ร่วมกันยังคงปักหลักค้นหาตัวนายประ พันธ์ จริงเพ็ชร อายุ 73 ปี อยู่บ้านเลขที่ 167 หมู่ 13 บ้านโปโล ต.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ หลังจากหายตัวปริศนาในช่วงกลางวันของวันที่ 8 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมา โดยทีมกู้ภัยและญาติๆได้ทำพิธีจุดธูปขอขมาพระแม่คงคา เจ้าที่เจ้าทาง ขับเรือลาดตระเวน ดำน้ำและใช้เรือปั่นน้ำ ทั้งนี้ เป็นการค้นหาอย่างต่อเนื่องทั้งกลางวันกลางคืน มาตั้งแต่วันที่ 8 มีนาคม โดยวันนี้เป็นวันที่ 7 ของการค้นหา แต่ผลการค้นหายังไม่พบร่องรอยหรือตัวของนายประพันธ์
นายวิรุฬห์วัจน์ แฝงจันดา รองหัวหน้าชุดกู้ภัยกุดหว้า จุดกมลาไสย กล่าวว่า สำหรับกรณีนายประพันธ์หายไปดังกล่าว ทีมกู้ชีพกู้ภัยได้รับแจ้งเมื่อเวลาประมาณ 17.00 น.ของวันที่ 8 มีนา คมที่ผ่านมา โดยเป็นการหายตัวหลังขี่รถจักรยานยนต์พ่วงข้างมาปล่อยน้ำที่นาข้าวนาปรัง ริมฝั่งลำปาวตามลำพัง ซึ่งที่นาและจุดที่สันนิษฐานว่าหายตัวไปดังกล่าว อยู่ด้านหลังที่ทำ การ อบต.กมลาไสย และห่างจากหมู่บ้านข้าวหลามประมาณ 2 กม. ในการค้นหาโดยกู้ชีพกู้ภัยและญาติตลอด 7 วันถึงวันนี้ ยังไม่พบร่องรอย
อย่างไรก็ตามหลักฐานที่พบหลังหาย ตัวไป มีเพียงรถจักรยานยนต์พ่วงข้าง เสื้อผ้า รองเท้าแตะและกางเกงใน ที่ถอดไว้ใกล้กับปากท่อระบายน้ำ คาดหายตัวไปในสภาพเปลือยล่อนจ้อน ไม่พบร่องรอยการต่อสู้ ทรัพย์สินอยู่ครบ เบื้องต้นญาติสงสัยอาจจะตกน้ำ และถูกกระแสน้ำดูดเข้าไปในท่อระ บายน้ำ และไหลงลงไปในลำน้ำปาว ซึ่งมีความกว้างและลึกไม่น้อยกว่า 7-10 เมตร จากนั้นจมดิ่งและหายสาบสูญไป ทราบว่าญาติได้ไปแจ้งความคนหาย ที่สภ.กมลาไสยตั้งแต่วันที่เกิดเหตุแล้ว
ด้านนางอำไพ จริงเพ็ชร อายุ 45 ปี อยู่บ้านเลขที่ 167 หมู่ 13 บ้านโปโล ต.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ ภรรยานายประพันธ์ กล่าวว่า วันเกิดเหตุ 8 มีนา คม 2565 เวลาประมาณ 11.00 น. นายประพันธ์สามี ได้ขี่รถจักรยาน ยนต์พ่วงข้างมาปล่อยน้ำที่แปลงนาข้าวนาปรังตามลำพัง ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติที่นายประพันธ์จะออกมาดูข้าวดูน้ำที่แปลงนาปรัง จากนั้นก็จะล่องเรือหาปลาในลำน้ำปาว เพื่อนำไปประ กอบอาหารและแบ่งขายในหมู่บ้าน ซึ่งถือเป็นกิจวัตรประจำวันในช่วงเวลาเช้าถึงเที่ยงก่อนจะกลับเข้าบ้าน
นางอำไพ กล่าวอีกว่า ในวันเกิดเหตุเวลาประมาณ 16.00 น.มีเพื่อนบ้านซึ่งเดินทางผ่านที่นาตนมาแจ้งว่าสง สัยนายประพันธ์หายตัวไป เพราะเห็นแต่เสื้อผ้าและสิ่งของวางอยู่หน้าปาก ท่อระบายน้ำ ซึ่งเป็นท่อเหล็กความกว้างประมาณ 10 นิ้ว ประมาณยาว 20 เมตร เชื่อมระหว่างคลองระบายน้ำแปลงนากับลำน้ำปาว หากหายตัวไปจริงๆ สันนิษฐานว่าคงจะถูกกระแสน้ำดูดเข้าไปในท่อ และไปตกลงไปในลำปาว เนื่องจากนายประพันธุ์สูงอายุและรูปร่างเล็ก ทั้งนี้ ก่อนเกิดเหตุคง จะถอดเสื้อผ้าลงเปิดปากท่อระบายน้ำและเกิดอาการวูบ เพราะเป็นคนชอบดื่มสุราขาว มีอาการวิงเวียนศีรษะบ่อย ประกอบกับอากาศร้อนจัด จึงอาจจะเกิดอาการวูบและถูกกระแสน้ำพัดหายไปในลำปาวดังกล่าว ส่วนประเด็นที่ว่าจะถูกฆาตกรรมนั้นไม่น่าเป็นไปได้ เพราะไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับใคร
ขณะที่นางนาง ไชยแสง อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 206 หมู่ 2 บ้านข้าว หลาม ต.กมลาไสย อ.กมลาไสย จ.กาฬสินธุ์ หลานนายประพันธ์ กล่าวว่า หลังจากทราบว่านายประพันธ์ได้หายตัวไป ทั้งชาวบ้านและกู้ชีพกู้ภัยก็ช่วยกันตามหาหลายจุด ทั้งทางบกและทางน้ำ จุดธูปขอมขาบอกกล่าวพระแม่คงคา เจ้าที่เจ้าทาง ขับเรือตระเวนทั้งฝั่งซ้ายฝั่งขวาระยะทางกว่า 20 กม. ดำน้ำค้นหาตลอด 7 วัน รวมทั้งใช้เรือปั่นน้ำ โดยขับวนหลายเที่ยวตลอดวัน แต่ถึงขณะนี้ยังไม่พบตัว สุดท้ายก็หันพึ่งไสยศาสตร์และหมอดูก็บอกว่าจมอยู่ในน้ำ ประดาน้ำลงดำค้นหาก็ยังไม่เห็น ทุกคนจึงรู้สึกมึนงงสงสัยเป็นอย่างมาก เพราะหากจมน้ำปกติ 2-3 วันก็จะโผล่ขึ้นมาแล้ว แต่นี่ยังไม่เห็นเลย ส่วนตัวสันนิษฐานว่าถูกน้ำดูดเข้าไปในท่อระบายน้ำและจมน้ำ และไม่คิดว่าจะถูกฆาตกรรม เพราะทรัพย์สินยังเหลืออยู่ครบ และนายประพันธ์ไม่เคยมีศัตรู
อย่างไรก็ตามในเมื่อปฏิบัติการค้นหาร่างนายประพันธ์ที่หายตัวไปอย่างปริศนาตลอด 7 วัน โดยปูพรมค้นหาหลายจุดยังไม่พบร่างเบาะแส ชาวบ้านบางคนเชื่อว่าอาจจะถูกผีน้ำลักพาตัว เพราะนายประพันธ์อาจจะไปทำล่วงเกินอะไรบางอย่าง แต่ในส่วนของญาตินั้น กำลังเตรียมหลักฐานเดินทางเข้าแจ้งความที่ สภ.กมลาไสยอีกครั้ง เพื่อขอความช่วยเหลือจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ ช่วยติดตามหาเบาะแสด้วย.
Discussion about this post