นางจุรีรักษ์ เทพอาสน์ ผวจ.สกลนคร เปิเเผยว่า เมื่อวันที่ 28 มีนาคม ที่ผ่านมา นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย เป็นประธานในพิธีมอบสมุดประจำตัว ผู้ได้รับการคัดเลือกให้ทำกินในชุมชน ตามนโยบายรัฐบาล ลักษณะแปลงรวม ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ “ป่าดงผาลาด” ต.ธาตุ ต.คูสะคาม อ.วานรนิวาส แล ต.เจริญศิลป์ ต.ทุ่งแก ต.บ้านเหล่า อ.เจริญศิลป์ จ.สกลนคร ซึ่งโครงการจัดที่ดินทำกินภายใต้นโยบายของรัฐบาล (คทช.) เป็นกลไกขับเคลื่อนนโยบายและแผนบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดิน ให้แก่ผู้ยากไร้ และเป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลในการบริหารจัดการที่ดินและทรัพยากรดิน เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน และพัฒนาศักยภาพการใช้ประโยชน์ที่ดินให้เกิดประโยชน์สูงสุด สมดุล เป็นธรรมและยั่งยืน ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และความมั่นคงของประเทศ จังหวัดสกลนคร จึงได้จัดทำโครงการส่งมอบสมุดประจำตัว ผู้ได้รับการคัดเลือกให้ทำกินในชุมชน ตามนโยบายรัฐบาลในลักษณะแปลงรวม ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ “ป่าดงผาลาด” รวมทั้งสิ้น 993 เล่ม 914 ราย โดยได้รับการจัดสรรงบประมาณ แผนยุทธศาสตร์ เสริมสร้างพลัง
โดยมีนายสมเกียรติ ถนอมกิตติ รองอธิบดีกรมที่ดิน รอง ผวจ.สกลนคร กำนัน ผญบ.ร่วมเป็นสีกขีพยาน
ผวสกลนคร กล่าวด้วยว่า ทั้งนี้ รมช.มหาดไทย ยังกล่าวย้ำให่ทราบว่า คณะอนุกรรมการนโยบายที่ดินจ.สกลนคร ได้รับมอบพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ “ป่าดงผาลาด”ในท้องที่อ.วานรนิวาส และ อ.เจริญศิลป์ จำนวน 1,456 แปลง เนื้อที่ได้รับอนุญาตจากกรมป่าไม้ 15,506 ไร่ 2 งาน 09 ตารางวา เพื่อนำมาจัดสรรให้ประชาชนที่ด้อยโอกาส สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลและ คทช. โดยมุ่งเน้นการดำเนินการในด้านการจัดที่ดินให้ประชาชนที่ด้อยโอกาสอย่างทั่วถึงและเป็นธรรม ซึ่งผู้ที่ได้รับคัดเลือกผ่านความเห็นชอบจาก คทช.จังหวัดสกลนคร แล้ว 1,351 แปลง และได้รับสมุดประจำตัวแล้ว จำนวน 993 เล่ม 914 แปลง เนื้อที่ 8,856 – 0 – 56 ไร่ ซึ่งการจัดพิธีมอบสมุดประจำตัววันนี้สำหรับพื้นที่ 2 อำเภอ ผ่านตัวแทนจำนวน 300 ราย สำหรับประเทศไทย มีประชากรประกอบอาชีพภาคเกษตร 9 ล้านกว่าครัวเรือน หรือ 30-40 ล้านคน รัฐบาล โดย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญกับภาคการเกษตร จึงมีนโยบายในการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนที่ไม่มีที่ดินทำกิน หรือมีที่ดิน แต่ไม่เพียงพอ ช่วยให้มีที่ดินทำกินอย่างถูกต้อง เพื่อเป็นการสร้างอาชีพ สร้างรายได้ให้พี่น้องประชาชนมีความมั่นคงในการดำรงชีวิต การดำเนินงานของ คทช.จังหวัด เพื่อจัดที่ดินทำกินให้กับชุมชนในครั้งนี้ เป็นการประสานความร่วมมือที่มีการทำงานร่วมกันแบบไร้รอยต่อระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ประชาชนได้ประโยชน์สูงสุด ซึ่งเมื่อประชาชนได้ที่ดิน ได้สิทธิในที่ดิน ถึงแม้ว่าจะไม่ได้กรรมสิทธิ์ในที่ดิน แต่จะเป็นการสร้างความมั่นใจในการทำกินให้กับชุมชน สามารถทำกินในที่ดินผืนดังกล่าวได้โดยถูกต้องตามระเบียบกฎหมาย
“ในการ “บำบัดทุกข์ บำรุงสุข” ให้แก่พี่น้องประชาชน ที่ต้องเดินไปด้วยกัน ทำงานร่วมกันอย่างเหนียวแน่นแข็งขัน ตนมองว่าการมีที่ดินทำกินเป็นความมั่นคงในชีวิตของประชาชน เป็นการสร้างความเป็นธรรม ลดความเหลื่อมล้ำ สร้างความมั่นใจ ประชาชนไม่ต้องเสี่ยงต่อการถูกดำเนินคดีในข้อหาบุกรุกที่ดินของทางราชการ หลังจากนี้ขอให้พี่น้องประชาชนนำโฉนดที่ดินไปใช้ให้เกิดประโยชน์ ไม่ว่าจะใช้เป็นที่อยู่อาศัย หรือจะนำไปประกอบอาชีพ เพิ่มผลผลิตและรายได้ดูแลครอบครัว สำหรับพี่น้องประชาชนชาวเกษตรกร ไม่เพียงแค่การจัดหาที่ดินให้ทำกิน รัฐบาลนี้ยังได้มีความพยายามออกมาตรการการให้ความช่วยเหลืออย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นนโยบายประกันรายได้พืชผลทางการเกษตรชนิดต่างๆ ประกอบด้วย ข้าว ข้าวโพด มันสำปะหลัง ยางพารา และปาล์ม โดยในงานมีการสอบถามชาวบ้านในพื้นที่ และผู้ประกอบอาชีพ ทำสวนยางพาราและทำนา จำนวน 2 ราย ทราบว่า ได้รับเงินส่วนต่างการปลูกข้าวนาปีและการทำวนยางพารา จำนวนเงินร่วมกว่า 70,000 บาท ทั้งนี้ นโยบายดังกล่าวเป็นไปเพื่อสร้างความมั่นคงของรายได้ให้กับเกษตรกร โดยเป็นหลักประกันรายได้ขั้นต่ำในการประกอบอาชีพการเกษตร สร้างความมั่นคงด้านอาหาร รักษาเสถียรภาพราคาสินค้าเกษตร ทั้งนี้ ขอให้พี่น้องประชาชนได้ขึ้นเป็นทะเบียนเกษตรกรให้ถูกต้องเพื่อเข้าถึงและรับการดูแลตามนโยบาย/มาตรการความช่วยเหลือต่างๆ ของราชการอย่างทั่วถึง และขอให้พี่น้องประชาชนมั่นใจว่ารัฐบาลจะไม่ทอดทิ้งใครไว้ข้างหลัง” ผวจ.สกลนคร กล่าว
วัฒนะ แก้วก่า/สกลนคร
Discussion about this post