ที่ศาลากลางจังหวัดอุบลราชธานี
นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลฯ เป็นประธานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) โครงการสืบสานอนุรักษ์ศิลป์ผ้าถิ่นไทย ดำรงไว้ในแผ่นดิน โดยมี นางศลิษา ภิรมย์รัตน์ ประธานแม่บ้านมหาดไทยจังหวัดอุบลฯ นายสมเพชร สร้อยสระคู รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลฯ นายพิสดาร ประดา พัฒนาการจังหวัดอุบลฯ นางกนกอร โพธิ์สิงห์ ผู้อำนวยการกลุ่มงานส่งเสริมการพัฒนาชุมชน นางเพ็ญพักตร์ ศรีทอง สมาชิกวุฒิสภา หัวหน้าส่วนราชการระดับจังหวัด ตลอดจนข้าราชการ เจ้าหน้าที่และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องเข้าร่วมพิธีฯ ทั้งนี้ ได้ปฏิบัติตามมาตรการเฝ้าระวังโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) อย่างเคร่งครัด
สืบเนื่องจากคณะรัฐมนตรี ได้มีมติเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2563 ให้กรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย เป็นหน่วยงานหลักเข้าร่วมกับ กรมส่งเสริมวัฒนธรรม กระทรวงวัฒนธรรม ดำเนินการตามมาตรการส่งเสริมและสนับสนุน โดยการใช้และสวมใส่ผ้าไทยให้เกิดผลเป็นรูปธรรมอย่างต่อเนื่องและสอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน โดยให้คำนึงถึงมาตรฐาน การดูแลรักษา ราคาที่เหมาะสม และรักษาไว้ซึ่งอัตลักษณ์ของผ้าไทยเพื่อให้ผ้าไทยสามารถจำหน่ายและแข่งขันในตลาดได้อย่างยั่งยืน
กรมการพัฒนาชุมชน ได้ลงนามในข้อตกลงร่วมกับสภาสตรีแห่งชาติในพระราชินูปถัมภ์ จัดทำโครงการ “สืบสานอนุรักษ์ศิลป์ผ้าถิ่นไทย ดำรงไว้ในแผ่นดิน” เพื่อสืบสานงานพระราชินูปถัมภ์ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงอนุรักษ์ส่งเสริมและเชิดชูอัตลักษณ์คุณค่าผ้าไทย ทำให้ผ้าไทยคงอยู่คู่แผ่นดินและเป็นการเพิ่มรายได้ให้กับผู้ประกอบการ นอกจากนั้น ยังเป็นการเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 อีกด้วย
จังหวัดอุบลราชธานี จึงได้จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) โครงการ “สืบสาน อนุรักษ์ศิลป์ผ้าถิ่นไทย ดำรงไว้ในแผ่นดิน” โดยร่วมกับส่วนราชการ หน่วยงาน รัฐวิสาหกิจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ภาคเอกชน ภาคประชาชน สมาคม กลุ่มองค์กร และภาคีเครือข่ายในจังหวัดอุบลราชธานี รวม 5 หน่วยงาน โดยมีวัตถุประสงค์ ประกอบด้วย 1)เพื่อสืบสานพระราชปณิธานสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ในการอนุรักษ์ส่งเสริมและเผยแพร่ผ้าไทยศิลปะอันล้ำค่าของชาติให้ดำรงคงอยู่ปรากฏเป็นความภาคภูมิใจ ของคนไทยและเป็นความชื่นชมของชาวโลก 2)เพื่อเชิดชูอัตลักษณ์คุณค่าผ้าไทยและประชาสัมพันธ์เผยแพร่ให้เกิดกระแสความนิยมการแต่งกายด้วยผ้าไทยแก่ประชาชนทั่วจังหวัดอุบลราชธานี ทั้งกลุ่มข้าราชการ พนักงานรัฐวิสาหกิจ ลูกจ้างของหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนให้ใช้ผ้าไทยอย่างต่อเนื่อง 3)เพื่อสืบสานอนุรักษ์ผ้าไทยให้คงคู่อยู่ในแผ่นดินสืบไปและเป็นการสนับสนุน ส่งเสริมการสร้างงาน สร้างอาชีพและสร้างรายได้เพิ่มขึ้นให้กับกลุ่มทอผ้า
กิจกรรมในพิธีประกอบด้วย การลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ทั้ง 53 หน่วยงาน องค์กร การจัดนิทรรศการผ้าเอกลักษณ์ประจำอำเภอ จาก 10 อำเภอ ในจังหวัด ได้แก่ อำเภอเมืองอุบลราชธานี วารินชำราบ สำโรง เขื่องใน โพธิ์ไทร พิบูลมังสาหาร ตระการพืชผล บุณฑริก โขงเจียม และอำเภอเขมราฐ นอกจากนั้นยังมีการจัดนิทรรศการผ้าจากสมาคมช่างตัดเสื้อจังหวัดอุบลราชธานี จำนวน 4 ร้าน ได้แก่ ร้านสูทสาคร ร้านเกรดเอ ร้านเพ็ญไหมไทย และร้านณารอน ปิดท้ายด้วยการเดินแบบผ้าไทย “สืบสาน อนุรักษ์ศิลป์ผ้าถิ่นไทย ดำรงไว้ในแผ่นดิน” ซึ่งงดงามน่าติดตราตรึงใจและยังถือเป็นความภาคภูมิใจของชาวจังหวัดอุบลราชธานี ที่ได้ถ่ายทอดภูมิปัญญาและวัฒนธรรมประเพณีอันดีงามให้คงอยู่.
Discussion about this post