ภาพวงจรปิดภายในห้างสรรสินค้าชื่อดังแห่งหนึ่งในอำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ จับภาพได้ขณะที่มีชายเสื้อแดงคนหนึ่งบุกเข้ามาที่หน้าบู๊ดขายของภายในห้างจากนั้นชายคนดังกล่าว ได้ปีนตู้สินค้าเข้าก่อนจะมีหญิงคนหนึ่งวิ่งหนีตายออกมาจากร้าน และ มีชายเสื้อแดงวิ่งไล่ตามหลังมาติด ๆ ก่อนจะลงมือก่อเหตุใช้มีดปลายแหลมกระหน่ำแทงไม่ยั้งกับหญิงสาวคนดังกล่าว เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 11.30 น. ของวันที่ 7 เมษายน 2565 หลังเกิดเหตุ พ.ต.อ. โชคติวัฒน์ เหลืองวิลัย รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ พ.ต.อ. มงคล อ่อนแก้ว ผกก.สภ.บางแก้ว นำกำลังสายตรวจและฝ่ายสืบสวน สภ.บางแก้ว พร้อมกับประสานแพทย์นิติเวช รพ.บางพลี และเจ้าหน้าที่กู้ภัยป่อเต็กตึ๊งเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ จากการตรวจสอบที่เกิดเหตุพบศพ นางสาว มารี นุบ อายุ 34 ปี สัญชาติกัมพูชา นอนหงายจมกองเลือดที่ข้างเคาน์เตอร์คิดเงินของทางห้าง ใกล้กันพบมีดทำครัวปลายแหลมยาวประมาณ 30 เซนติเมตรตกอยู่ เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐานและปิดกั้นพื้นที่เพื่อป้องกันภาพอุจาดตา แก่ผู้ที่เข้ามาใช้บริการภายในห้าง จากการตรวจสอบสภาพศพพบบาดแผลที่เหนือราวนมซ้าย 1 แผล เหนือราวขวา 2 แผล หน้าท้องฝั่งซ้าย 1 แผล แขนขวา 1 แผล แขนซ้าย 1 แผล และ ต้นขาซ้าย 2 แผล รวมทั้งหมด 8 แผล แพทย์เวรและพนักงานสอบสวนจึงร่วมกันชันสูจน์พลิกศพ และ มอบร่างผู้เสียชีวิตให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยส่งไปชันสูจน์ที่นิติเวช รพ รามาสมุทรปราการ
สอบถามพยานผู้เห็นเหตุการณ์ท่านหนึ่ง (สงวนชื่อและเบลอใบหน้า) เล่านาทีระทึกว่าขณะที่ผู้เสียชีวิตกำลังทำงานที่ร้านจู่ก็มีอดีตแฟนเก่าเดินเข้ามาที่ร้านพยามง้อขอคืนดีแต่ฝ่ายหญิงไม่คุยด้วยทำให้ฝ่ายชายปีนร้านเข้าไปหาจนฝ่ายหญิงวิ่งหนีออกมาจากนั้นฝ่ายชายไล่ตามจนทันและผลักฝ่ายหญิงล้มลงก่อนจะชักมีดที่เตรียมมาจ้วงแทงไม่ยั้งต่อหน้าสายตาคนจำนวนมากแต่ไม่มีใครกล้าเข้าห้ามในขณะนั้นจนกระทั่งตนเองทนเห็นต่อไม่ไหวตัดสินใจขอความช่วยเหลือจากพนักงานชายคนอื่นเข้าชาร์จจับกุมตัวผู้ก่อเหตุและพบว่าฝ่ายหญิงกำลังจะขาดใจจึงรีบประสานกู้ชีพประจำห้างเข้าช่วยเหลือแต่พบว่าเสียชีวิตแล้ว
ด้าน พ.ต.อ. มงคล อ่อนแก้ว ผกก.สภ.บางแก้ว เปิดเผยว่าสำหรับเหตุการณ์ดังกล่าว เป็นเรื่องของความหึงหวงระหว่างอดีตสามีกับภรรยา ซึ่งเลิกรากันไปได้พอสมควรแต่ฝ่ายชายไม่ยอมเลิกราและทราบว่าฝ่ายหญิงมีคนใหม่จึงเกิดความโมโหบุกเข้ามาก่อเหตุดังกล่าว ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุรายนี้ได้ คือ นายชนะวรรณ ชมภูเมือง อายุ 31 ปี ชาวอำเภอสว่างดินแดน จังหวัดสกลนคร เบื้องต้นให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุจริง ซึ่งจากการตรวจสอบปริมาณแอลกอฮอล์พบว่าสูงถึง 112 มิลลิกรัมเปอร์เซ็น นอกจากนั้นจากการตรวจสอบประวัติย้อนหลังพบว่าผู้ต้องหารายนี้เพิ่งพ้นโทษมาในปี 2562 ในฐานความผิดพยามฆ่า
ด้าน นายชนะวรรณ ผู้ต้องหาโหดเหี้ยมรายนี้ให้สัมภาษณ์ในท่าทีนิ่งเฉย บอกว่า ตนเองและฝ่ายหญิงเคยคบหาอยู่กินกันมาก่อนหน้านี้ประมาณปีกว่า จากนั้นฝ่ายหญิงก็ขอเลิกรากับตนเอง เพราะรับไม่ได้ที่ตนเองเสพยาและดื่มสุราอย่างหนัก ซึ่งพอเลิกลากันไปตนเองก็มีคนใหม่ แต่ก็ยังโทรคุยกับทางฝ่ายหญิงและเคยกำชับห้ามมีคนใหม่อีก จนมาช่วงหลังตนเองสืบทราบว่าฝ่ายหญิงมาคบกับรุ่นน้องที่เคยทำงานด้วยกันกับตนเองจึงรับไม่ได้ อ้างว่าเปรียบเสมือนถูกหยามศักดิ์ศรี จึงโทรหาฝ่ายชายเพื่อจะให้เลิกรากับฝ่ายหญิง แต่ฝ่ายชายบอกว่าจะมารับฝ่ายหญิงตอนเลิกงานในวันนี้ ตนเองจึงไม่ยอมให้ฝ่ายชายมารับ ตัดสินใจไปซื้อสุรามาดื่มหมดไปหนึ่งขวด แล้วเตรียมมีดดังกล่าวเหน็บเอวเดินทางมาหาฝ่ายหญิงเพื่อของ้อคืนดีและไม่ให้ไปเจอกับฝ่ายชาย แต่ฝ่ายหญิงไม่ยอมคุยด้วยจึงตัดสินใจลงมือก่อเหตุดังกล่าว
ทั้งนี้ผู้ต้องหารายนี้ยังยอมรับอีกว่าตนเองเพิ่งพ้นโทษมาจริง จากคดีพยามฆ่า อดีตแฟนคนเก่า เพราะความหึงหวงเช่นกัน จนกระทั่งพ้นโทษออกมาก็มาคบกับฝ่ายหญิงคนนี้แล้วมาลงมือก่อเหตุซ้ำดังกล่าว ส่วนทางด้าน น้องชายของผู้เสียชีวิต บอกว่าพี่สาวและน้อง ๆ รวม 4 คน พากันมาหางานทำอย่างถูกต้องตามกฎหมายในประเทศไทยได้ปีกว่าแล้ว ที่ผ่านมาทราบว่าพี่สาวเคยคบกับผู้ต้องหาและตนเองไม่เคยได้พูดคุยกับฝ่ายชาย แต่พี่สาวเคยบ่นให้ฟังว่าฝ่ายชายนิสัยไม่ดี จึงอยากเลิกรากัน จนกระทั่งทราบว่าพี่สาวได้ขอเลิกไปแล้ว จนไปมีคนใหม่แล้ว ซึ่งฝ่ายชายก็ไปมีคนใหม่แล้วเช่นกัน แต่ทำไมต้องมาก่อเหตุฆ่าพี่สาวตนเองด้วย แล้วลูก ๆ ของพี่สาว ทั้ง 4 คน จะอยู่อย่างไง
Discussion about this post