จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟสบุ๊กชื่อChumpol Punnin (จุมพล พูลนิน)ได้โพสต์ภาพซากงูเห่า และเด็ก ที่หลับตาร้องไห้อยู่กับผู้ปกครอง พร้อมข้อความว่า เป็นเคสที่สะเทือนใจมาก ๆ อุทาหรณ์ ท่านที่มีบุตรหลาน อย่าปล่อยให้เด็กห้องน้ำตามลำพัง เพราะบางครั้งงูชอบตามไปกินหนู หรืออึ่งอ่าง ที่ชอบไปนอนในที่ชื้น ๆ เคสนี้เด็กเข้าห้อง น้ำ แล้วไปเจองู ไม่แน่ใจเด็กไปแหย่ หรือเล่นกับงูหรือเปล่า แต่งูพ่นพิษใส่ตา 2 ข้าง ที่สำคัญไม่แน่ใจว่าถูกกัดด้วยหรือเปล่า น้องอายุแค่ 3 ขวบ เพราะน้องบอกไม่ได้ ขอให้น้องปลอดภัย ซึ่งโลกออนไลน์ได้มีการแชร์ออกไปมากกว่า 2 พันครั้ง และมีการแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก
เกี่ยวกับความคืบหน้าเรื่องดังกล่าว เมื่อวันที่ 9 เม.ย.ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่269/6 ม.5 ต.นิคมพัฒนา อ.นิคมพัฒนา จ. ระยอง ซึ่งเป็นสนามฟุตบอลหญ้าเทียม จุดเกิดเหตุคือบ้านพักพนักงาน บริเวณหัองน้ำ ที่เกิดเหตุการณ์ งูพิษพ่นพิษเข้าตา เด็กหญิงวัย 3 ขวบ ซึ่งหลังเกิดเหตุเจ้าหน้าที่กู้ภัยได้รับแจ้งจึงรีบไปตรวจสอบและให้ความช่วยเหลือ จนกระทั่งนำตัวเด็กหญิงส่งรักษาที่ รพ. นิคมพัฒนา จนล่าสุดอาการปลอดภัยแล้ว
จากการสอบถามผู้ดูแลสนามฟุตบอลหญ้าเทียม ได้เปิดเผยว่า สนามฟุต บอลได้ปิดให้บริการหลังสถานการณ์โควิดระบาด จึงได้จ้างให้ครอบครัวคนงานสัญชาติเมียนม่า มาเฝ้าดูแล จนกระทั่งมาเกิดเหตุขึ้น จากการตรวจสอบพบว่า เด็กหญิงถูกงูเห่าพ่นพิษใส่ตา ขณะเข้าห้องน้ำตามลำพัง โดยทางเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯสามารถจับงูเห่าตัวดังกล่าวไว้ได้ ซึ่งพบว่ากินอาหารคาดว่าเป็นคางคกเข้าไปด้วยจนท้องป่อง นับว่าโชคดีที่อาการเด็กปลอดภัยแล้ว ซึ่งหลังจากนี้จะปรับ ปรุงด้วยการตัดหญ้ารอบตัวบ้านและห้องน้ำออก เพื่อป้องกันสัตว์ร้ายเข้ามา
จากการสอบถามด้านนายพิชิต ยี่สุ่นเจ้าหน้าที่กู้ภัยสว่างพรกุศล ที่เดินทางไปถึงเป็นชุดแรก บอกว่า ตอนที่ไปเจอ งูอยู่ที่ข้างถังน้ำ บริเวณในห้องน้ำ จึงใช้ไม้จับ พื้นที่ค่อนข้างแคบ จะมีรู เราจึงอุดรูไว้ ป้องกันไม่ให้งูเข้ารูหนีไปทางท่อระบายน่้ำ เบื้องต้นเป็นงูเห่า มันแผ่แม่เบี้ยตอนแรกที่เข้าไป จึงต้องหาทิศทางเข้าไปจับ จนสามารถจับตัวงูเห่าไว้ได้ ยาวประมาณ 2 เมตร นับเป็นอีกหนึ่งอุทาหรณ์ ที่ผู้ปกครองควรระวัง อย่า ให้เด็กเข้าห้องน้ำตามลำพัง เพราะเด็กยังไม่รู้ถึงพิษภัยของสัตว์ร้าย จึงควรระวัง ก่อนจะเกิดเหตุร้ายขึ้น.
Discussion about this post